ประสิทธิภาพการปฏิบัติงานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามหลักอิทธิบาทธรรมของพนักงานฝ่ายปกครอง อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) ศึกษาระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของพนักงานฝ่ายปกครองอำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน 2) เปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานดังกล่าว โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล 3) ศึกษาแนวทางการประยุกต์ใช้หลักพุทธธรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน วิจัยแบบผสานวิธี คือ เชิงปริมาณ ประชากรและกลุ่มตัวอย่างได้แก่ พนักงานฝ่ายปกครองในพื้นที่ จำนวน 289 คน เครื่องมือ ได้แก่แบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่น 0.896 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที ค่าเอฟ และเชิงคุณภาพ โดยผู้ให้ข้อมูลสำคัญ 12 รูป/คนหรือวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา

          ผลการวิจัยพบว่า

1) ระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ของพนักงาน ฝ่ายปกครองอำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก

2) เปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของพนักงานฝ่ายปกครองต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของพนักงานฝ่ายปกครอง อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน พบว่า พนักงานฝ่ายปกครองที่มีเพศ อายุ วุฒิการศึกษา ตำแหน่ง และประสบการณ์ทำงานต่างกัน               มีความคิดเห็นต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดไม่แตกต่างกัน              จึงปฏิเสธสมมติฐานการวิจัย

3) แนวทางการประยุกต์หลักพุทธธรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานการป้องกันและแก้ไข            ปัญหายาเสพติด ของพนักงานฝ่ายปกครองอำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยการประยุกต์หลักอิทธิบาท 4 พบว่า 1) ด้านฉันทะ ควรมีความรักและพอใจในงาน เข้าใจบทบาทหน้าที่ ช่วยเหลือประชาชน และเห็นความสำคัญของงานอย่างแท้จริง 2) ด้านวิริยะ ควรมีความมุ่งมั่น ขยัน อดทน ไม่ย่อท้อ พัฒนางานต่อเนื่อง และเสียสละเพื่อส่วนรวม 3) ด้านจิตตะ ควรเอาใจใส่หน้าที่ ตรวจสอบงานสม่ำเสมอ พัฒนาศักยภาพ และเมตตาต่อผู้ได้รับผลกระทบ 4) ด้านวิมังสา ควรทบทวนและประเมินผลงานร่วมกัน วางแผนปรับปรุงงานอย่างเป็นระบบและมีส่วนร่วม