แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพงบลงทุนของสถานศึกษาการจัดตั้งงบลงทุนของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัญหาและอุปสรรคด้านประชากรศาสตร์ที่ส่งผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพงบลงทุนของสถานศึกษาในการจัดตั้งงบลงทุนของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3 2) ศึกษาปัจจัยภายในองค์กรที่มีผลต่อประสิทธิภาพดังกล่าว 3) ศึกษาแรงจูงใจในการทำงานที่ส่งผลต่อการจัดตั้งงบลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และ 4) เสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาในประเด็นที่กล่าวมาวิธีวิจัยประกอบด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกเจ้าหน้าที่และผู้บริหารสถานศึกษา 10 คน และการเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 340 คน ซึ่งได้จากการสุ่มกลุ่มข้าราชการครูและบุคลากรในสังกัด โดยวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา t-test, One-Way ANOVA และการถดถอยพหุคูณ รวมถึงใช้ SWOT และ TOWS Matrix เพื่อหาแนวทางการพัฒนา
ผลการวิจัยพบว่า
1) ปัญหาอุปสรรคปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการขอจัดตั้งงบลงทุนของสถานศึกษาในสังกัด พบว่า เพศ อายุ ระดับการศึกษา อายุการทำงาน ประเภทบุคลากร และระดับรายได้ แม้จะมีความแตกต่างกัน แต่ไม่ได้ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการขอจัดตั้งงบลงทุนของสถานศึกษาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
2) ปัจจัยภายในองค์กรของสถานศึกษาในสังกัดมีผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพงบลงทุนของสถานศึกษาการขอจัดตั้งงบลงทุนของสถานศึกษา พบว่า กลยุทธ์และยุทธศาสตร์ รูปแบบการบริหารงาน ความสามารถของบุคลากร และระบบการปฏิบัติงาน มีผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการจัดตั้งงบลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ
3) แรงจูงใจในการทำงานที่ส่งผลให้จัดตั้งงบลงทุนของสถานศึกษาในสังกัดมีประสิทธิภาพ พบว่า ลักษณะของงานที่ท้าทาย และวิธีการบริหารของผู้บังคับบัญชา ซึ่งมีผลกระตุ้นให้เกิดความตระหนักรู้และความรับผิดชอบต่อภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงบลงทุน
4) การแก้ไขปัญหาอุปสรรค ด้านประชากรศาสตร์ ปัจจัยภายในองค์กร และแรงจูงใจที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการขอจัดตั้งงบลงทุนของสถานศึกษาในสังกัด พบว่า ปัจจัยภายในองค์กรที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการจัดตั้งงบลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ กลยุทธ์และยุทธศาสตร์ รูปแบบการบริหารงาน ความสามารถ และระบบการปฏิบัติงาน ส่วนแรงจูงใจที่มีอิทธิพล ได้แก่ ลักษณะของงานที่ท้าทาย และวิธีการบริหารของผู้บังคับบัญชา
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
ณิชาภา ลพนานุสรณ์. (2565). แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพงบลงทุนของสถานศึกษาการปฏิบัติงานของบุคลากรกรุงเทพมหานคร: กรณีศึกษา สำนักงานเขตสะพานสูง. การค้นคว้าอิสระปริญญามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
ธนภรณ์ พรรณราย. (2565). ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรองค์การ บริหารส่วนจังหวัดสงขลา. วิทยานิพนธ์ปริญญารัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต.มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
นรินทร์ภัทร์ อ่อนละมูล. (2564). แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพงบลงทุนของสถานศึกษาการตรวจสอบการเงินของบุคลากรสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (ส่วนกลาง). การค้นคว้าอิสระปริญญามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
พัฒนาภรณ์ กล่ำทวี. (2562). แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพงบลงทุนของสถานศึกษาการทำงานให้กับผู้จัดทำบัญชีในจังหวัดระยอง. วารสารบริหารธุรกิจอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร. 1(2), 82 – 93.
พรรณิดา คำนา. (2562). ปัจจัยที่เอื้อต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานสายสนับสนุน.มหาวิทยาลัยศิลปากร. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร. 18(2), 185 – 200.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3. (2567). รายงานความก้าวหน้าในการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567. [ออนไลน์]. แหล่งข้อมูล : https://www.surat3.go.th/?page_id=12926 [ 28 มิถุนายน 2567].
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3. (2567). แผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567. [ออนไลน์]. แหล่งข้อมูล : https://www.surat3.go.th/? page_id=12926 [ 28 มิถุนายน 2567].
McFarland, D.E. (1979). Foundation & Practics. New York: Macmillan Publishing Inc.
Plowman, G. E., & Peterson, E. (1960). Business organization and management. Queensland: Irwin.
Robbins, S. P. (2001). Organizational Behavior. 11th ed. New Jersey: Pearson Prentice-Hall.
Taro Yamane. (1973). Statistics: an introductory analysis. New York: New York Harper & Row.
