ในขั้นตอนการส่งบทความ ผู้แต่งต้องตรวจสอบและปฏิบัติตามข้อกำหนดรายการตรวจสอบการส่งทุกข้อ ดังต่อไปนี้ และบทความอาจถูกส่งคืนให้กับผู้แต่งกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมด
-
บทความต้องไม่เคยได้รับการตีพิมพ์และไม่อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาตีพิมพ์ในวารสารหรือแหล่งเผยแพร่อื่นใด รวมทั้งต้องไม่ละเมิดหรือคัดลอกผลงานอื่น
-
บทความต้องมีรูปแบบตามที่วารสารระบุไว้ในหัวข้อ "การเตรียมต้นฉบับ"
-
บทความต้องอยู่ในรูปแบบไฟล์เอกสาร Microsoft Word (.docx) ควรมีความยาวรวมบทคัดย่อ ตาราง รูปภาพ และเอกสารอ้างอิง ประมาณ 15-20 หน้า กระดาษขนาด A4
-
บทความภาษาไทยต้องระบุชื่อบทความ ชื่อ-สกุล ชื่อหน่วยงานต้นสังกัด ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ รวมทั้งอีเมลผู้เขียนทุกคน
-
บทความภาษาไทยต้องมีบทคัดย่อทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ความยาวแต่ละภาษาไม่ควรเกิน 300 คำ และมีคำสำคัญ 3-5 คำ
-
บทความภาษาไทยต้องมีชื่อภาพประกอบ (Figure) และชื่อตาราง (Table) ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
-
บทความต้องมีรูปแบบการอ้างอิงตามที่วารสารกำหนดไว้
Journal of Information and Learning [JIL] เปิดรับพิจารณาผลงานวิชาการ ประกอบด้วย บทความวิจัย บทความวิชาการ และบทความปริทัศน์ จากอาจารย์ นักวิจัย นักศึกษา นักวิชาการ และผู้สนใจทั่วไป ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยเผยแพร่บทความวิชาการด้านบรรณารักษศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ สารสนเทศศึกษา การจัดการและบริการสารสนเทศ การรู้สารสนเทศและเทคโนโลยีสารสนเทศ การจัดการความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมการเรียนรู้ เทคโนโลยีการศึกษา สื่อการเรียนรู้ และสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง
ประเภทบทความ (Article type)
1) บทความวิจัย งานเขียนทางวิชาการที่เป็นงานศึกษาหรืองานค้นคว้าอย่างมีระบบ ด้วยวิธีวิทยาการวิจัยที่เป็นที่ยอมรับในสาขาวิชานั้น ๆ และมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูล คำตอบหรือข้อสรุปรวมที่จะนำไปสู่ความก้าวหน้าทางวิชาการหรือเอื้อต่อการนำวิชาการนั้นไปใช้ประโยชน์ บทความวิจัย ประกอบด้วย เนื้อหาที่สะท้อนให้เห็นกระบวนการค้นคว้าวิจัยในประเด็นปัญหาอย่างเหมาะสมตามระเบียบวิธีวิจัย เช่น บทนำหรือประเด็นปัญหาการวิจัย ผลการศึกษาวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง วัตถุประสงค์ สมมติฐาน กรอบแนวคิด วิธีดำเนินการ การสรุปผล การอภิปรายผล และให้ข้อเสนอแนะ มีการอ้างอิงและรายการเอกสารอ้างอิงครบถ้วน ทั้งนี้อาจนำเสนอโดยจำแนกตามหัวข้อข้างต้นหรือประมวลสรุปกระบวนการวิจัยในผลงานวิจัยนั้นให้มีความกระชับและสั้น สำหรับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ
2) บทความวิชาการ งานเขียนทางวิชาการซึ่งกำหนดประเด็นที่ต้องการอธิบายหรือวิเคราะห์อย่างชัดเจนตามหลักวิชาการ สามารถสรุปผลการวิเคราะห์ในประเด็นนั้นได้ อาจเป็นการนำความรู้จากแหล่งต่าง ๆ มาประมวลร้อยเรียงเพื่อวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ โดยที่ผู้เขียนแสดงทัศนะทางวิชาการของตนไว้อย่างชัดเจน บทความวิชาการ ประกอบด้วย บทนำเพื่อแสดงเหตุผล หรือที่มาของประเด็นที่ต้องการอธิบายหรือวิเคราะห์ กระบวนการอธิบายหรือวิเคราะห์ และบทสรุป มีการอ้างอิงและรายการเอกสารอ้างอิงครบถ้วน
3) บทความปริทัศน์ งานเขียนทางวิชาการที่มีการสังเคราะห์องค์ความรู้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จากเอกสาร ข้อมูล องค์ความรู้ที่หลากหลายที่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมา พัฒนาการ และแนวโน้มของการศึกษาหรือองค์ความรู้ในเรื่องนั้น ๆ บทความปริทัศน์ ประกอบด้วย บทนำ เนื้อหา พัฒนาการ หรือแนวโน้มของประเด็นที่นำเสนอ และบทสรุป
การส่งต้นฉบับ (Submissions)
บทความที่จะได้รับการพิจารณาตีพิมพ์จะต้องผ่านกระบวนการพิจารณาจากกองบรรณาธิการและผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง (Peer Review) โดยมีขั้นตอนดังนี้
1) ผู้เขียนต้องเตรียมต้นฉบับให้มีรูปแบบตามที่วารสารระบุไว้ในหัวข้อ "การเตรียมต้นฉบับ"
2) ผู้เขียนต้องลงทะเบียนเพื่อใช้งานระบบ ThaiJO และส่งบทความทางระบบออนไลน์ที่ Journal of Information and Learning [JIL] เท่านั้น
3) เมื่อกองบรรณาธิการได้รับบทความแล้วจะดำเนินการตรวจสอบบทความเบื้องต้น ซึ่งประกอบด้วย การตรวจสอบความสอดคล้องของบทความกับวัตถุประสงค์และขอบเขตวารสาร การตรวจสอบการตีพิมพ์ซ้ำซ้อนและการคัดลอกบทความด้วยโปรแกรม CopyCatch และ Copyleaks และการตรวจสอบต้นฉบับถูกต้องครบถ้วนตามรูปแบบที่วารสารกำหนด รวมถึงคุณภาพและประโยชน์ทางวิชาการด้วย
4) หากผ่านการตรวจสอบบทความเบื้องต้น กองบรรณาธิการจะดำเนินการส่งบทความให้ผู้ทรงคุณวุฒิกลั่นกรองคุณภาพบทความต่อไป
5) เมื่อผู้ทรงคุณวุฒิกลั่นกรองคุณภาพบทความเรียบร้อยแล้ว กองบรรณาธิการจะประเมินผลการกลั่นกรองโดยอิงตามข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิในบทความนั้น ๆ ว่า เห็นควรรับการตีพิมพ์ หรือแก้ไขก่อนการตีพิมพ์ หรือปฏิเสธการตีพิมพ์ โดยผลการพิจารณาของผู้ทรงคุณวุฒิและการตัดสินใจของกองบรรณาธิการถือเป็นที่สิ้นสุด
6) สำหรับบทความที่ผ่านการพิจารณาและได้รับการตีพิมพ์ ผู้เขียนต้องชำระเงินค่าตีพิมพ์ตามอัตราที่วารสารกำหนด โดยกองบรรณาธิการจะแจ้งให้ทราบภายหลังกระบวนการพิจารณาบทความเรียบร้อยแล้ว
ขั้นตอนการดำเนินงาน (Workflow)

การส่งข้อมูลผู้ประสานงานหลัก (Corresponding author)
ผู้เขียนสามารถส่งข้อมูลผู้ประสานงานหลักได้ที่ แบบฟอร์มข้อมูลผู้ประสานงานหลักบทความ เพื่อจัดเก็บข้อมูลผู้เขียนและใช้ในการติดต่อประสานงานกับกองบรรณาธิการวารสารเท่านั้น
อัตราค่าตีพิมพ์ (Page charge)

โดยมีเงื่อนไขการตีพิมพ์บทความ ดังนี้
กรณีการตีพิมพ์บทความแบบปกติ (Normal)
1) กำหนดแจ้งผลการพิจารณาภายใน 90-120 วัน
2) เมื่อบทความได้รับการตอบรับตีพิมพ์ (Accept) ต้องชำระเงินค่าตีพิมพ์ภายหลังได้รับการแจ้งผลการพิจารณา
3) หากบทความไม่ผ่านการพิจารณาคุณภาพ (Reject) เจ้าของบทความไม่ต้องชำระเงินค่าตีพิมพ์
4) กรณีเจ้าของบทความมีความประสงค์ขอถอนบทความภายหลังการตอบรับตีพิมพ์แล้ว จะต้องชำระค่าดำเนินการตามอัตราค่าตีพิมพ์ โดยทางวารสารจะออกหนังสือรับรองการถอนบทความให้ภายหลังการชำระเงิน
กรณีการตีพิมพ์บทความแบบเร่งด่วน (Fast track)
1) กำหนดแจ้งผลการพิจารณาภายใน 45 วัน
2) ต้องชำระเงินค่าธรรมเนียมก่อน 5,000 บาท ทั้งนี้หากบทความไม่ผ่านการพิจารณาคุณภาพ (Reject) จะไม่ได้รับเงินคืน
3) กรณีเจ้าของบทความมีความประสงค์ขอถอนบทความภายหลังการตอบรับตีพิมพ์แล้ว จะต้องชำระค่าดำเนินการตามอัตราค่าตีพิมพ์ โดยทางวารสารจะออกหนังสือรับรองการถอนบทความให้ภายหลังการชำระเงิน
*** หมายเหตุ การชำระเงินค่าธรรมเนียมไม่ได้การันตีว่าบทความของท่านจะได้รับการตีพิมพ์ ***
ช่องทางการชำระเงิน (Payment)
การชำระเงินกำหนดให้โอนผ่านบัญชีธนาคาร ดังนี้
ธนาคาร ไทยพาณิชย์ สาขาย่อย ม.สงขลานครินทร์ (ปัตตานี)
ชื่อบัญชี สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
เลขที่บัญชี 704-224316-1
พร้อมส่งสำเนาหลักฐานการชำระเงินมายังอีเมล khanitsorn.r@psu.ac.th
*** หมายเหตุ ผู้เขียนต้องชำระเงินภายหลังได้รับการแจ้งจากกองบรรณาธิการเท่านั้น ***
Journal of Information and Learning ดำเนินการโดยสำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ โดยเจ้าของลิขสิทธิ์จะมีสิทธิในการทำซ้ำ ดัดแปลง และเผยแพร่งานบทความ ทั้งรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ การทำฉบับสำเนา การแปล และการผลิตซ้ำในรูปแบบต่าง ๆ ลิขสิทธิ์บทความเป็นของผู้เขียนและสำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี วารสารฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาตีพิมพ์ตามความเหมาะสม รวมทั้งการตรวจทานแก้ไข การปรับข้อความ หรือขัดเกลาภาษาให้ถูกต้องตามเกณฑ์ที่กำหนด สำหรับผลการวิจัยและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความถือเป็นความคิดเห็นและอยู่ในความรับผิดชอบของผู้เขียน