e-ISSN: 2697-5017
วาระการพิมพ์: ปีละ 2 ฉบับ
การเผยแพร่: แบบเสรี (Open Access)
ภาษา: ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
การพิจารณาบทความ: Double Blinded
จริยธรรมการตีพิมพ์
จริยธรรมการตีพิมพ์ (Publication Ethics)
วารสารการวิจัยกาสะลองคำ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ให้ความสำคัญต่อการรักษามาตรฐานทางวิชาการ และมาตรฐานด้านจริยธรรมของบทความที่จะตีพิมพ์เผยแพร่ออกสู่สังคม ดังนั้นจึงกำหนดให้ผู้เกี่ยวข้องกับวารสารฯ ต้องปฏิบัติตามหลักการและมาตรฐานด้านจริยธรรมการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิชาการ ดังนี้
บทบาทและหน้าที่ของผู้นิพนธ์ (Author)
- 1. บทความที่ผู้นิพนธ์ส่งมาเพื่อพิจารณาตีพิมพ์ในวารสารฯ จะต้องเป็นบทความที่ไม่เคยตีพิมพ์หรือเผยแพร่
- ในที่ใดมาก่อน
- 2. ผู้นิพนธ์ ต้องไม่นำบทความดังกล่าวเสนอยื่นตีพิมพ์กับวารสารอื่น ๆ พร้อมกัน จนกว่าจะได้รับการปฏิเสธ
- การตีพิมพ์จากทางวารสารฯ แล้ว
- 3. ผู้นิพนธ์ต้องเขียนบทความตามรูปแบบที่วารสารฯ กำหนดไว้ใน “คู่มือวารสารวิจัยกาสะลองคำ
- มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย” เท่านั้น
- 4. ผู้นิพนธ์ต้องทำการอ้างอิงตามระบบการอ้างของวารสารฯ ทุกครั้ง เมื่อนำผลงานหรือข้อความความของผู้อื่น
- มานำเสนอหรืออ้างอิงประกอบเนื้อหาในบทความของตน
- 5. ชื่อผู้นิพนธ์ที่ปรากฏในบทความ ต้องเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องในบทความนั้นจริง
- 6. ผู้นิพนธ์ต้องนำเสนอข้อมูลในบทความตามข้อเท็จ มีหลักการทางวิชาการ
- 7. หากบทความของผู้นิพนธ์มีความเกี่ยวข้องกับการใช้สัตว์ ผู้เข้าร่วม อาสาสมัคร หรือกลุ่มผู้ให้ข้อมูลที่มี
- ความเปราะบาง ผู้วิจัยควรปฏิบัติตามหลักการทางจริยธรรมในมนุษย์ ก่อนดำเนินการเก็บข้อมูล และควรระบุ
- ถึงการได้รับการรับรองจากคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ ประกอบในบทความ
- 8. ผู้นิพนธ์ต้องระบุแหล่งทุนที่ให้การสนับสนุนการศึกษาวิจัย (ถ้ามี)
บทบาทและหน้าที่ของบรรณาธิการ และกองบรรณาธิการ (Editor in Chief)
- 1. บรรณาธิการ และกองบรรณาธิการ มีหน้าที่รักษาคุณภาพทางของวารสารให้มีมาตรฐานที่ดี
- และทันสมัยอยู่เสมอ
- 2. บรรณาธิการ และกองบรรณาธิการ มีหน้าที่พิจารณา ตรวจสอบคุณภาพของบทความที่ส่งมา
- เพื่อขอรับการตีพิมพ์จากวารสารฯทุกบทความ โดยพิจารณาถึงความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์
- และขอบเขตของวารสารฯ รวมทั้งตรวจสอบคุณภาพของกระบวนการประเมินบทความก่อนการตีพิมพ์
- 3. บรรณาธิการ และกองบรรณาธิการ ต้องใช้หลักการพิจารณาบทความอย่างมีเหตุผลตามหลักวิชาการ
- เป็นหลักสำคัญไม่มีอคติต่อผู้นิพนธ์ และบทความที่พิจารณา
- 4. บรรณาธิการ และกองบรรณาธิการ จะไม่เปิดเผยชื่อผู้นิพนธ์
- และชื่อผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความต่อบุคคลอื่นๆ
- 5. บรรณาธิการ และกองบรรณาธิการ ต้องไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้นิพนธ์
- หรือผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความ
- 6. บรรณาธิการ และกองบรรณาธิการ ต้องไม่ปิดกั้น ปรับเปลี่ยน ดัดแปลงผลการพิจารณาแลกเปลี่ยนระหว่าง
- ผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความกับผู้นิพนธ์
- 7. บรรณาธิการ และกองบรรณาธิการ ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกระบวนการ และขั้นตอนต่าง ๆ ของวารสารฯ
- อย่างเคร่งครัด
บทบาทและหน้าที่ของผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความ (Reviewer)
- 1. ผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความ ต้องตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของการเป็นผู้เชี่ยวชาญทางวิชาการ
- พิจารณาบทความด้วยความละเอียดภายใต้หลักการและเหตุผลทางวิชาการ
- ปราศจากอคติต่อเนื้อหาในบทความ
- 2. ผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความต้องไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้นิพนธ์ และต้องไม่เปิดเผยข้อมูลของบทความ
- ให้กับบุคคลภายนอกก่อนการตีพิมพ์เผยแพร่
- 3. ผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความ ต้องมีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาที่จะรับประเมินอย่างแม้จริง
- กรณีที่ไม่สามารถประเมินบทความได้ หรือมีเหตุที่ไม่สามารถประเมินได้ต้องแจ้งบรรณาธิการวารสารฯ ทันที
- 4. ผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความต้องไม่แสวงหาประโยชน์จากบทความที่ทำการประเมิน
- 5. ผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความต้องรักษาขอบเขตระยะเวลาที่ใช้ในการประเมินไม่ให้เกินกำหนด
- 6. กรณีที่ผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความ พบว่า บทความที่กำลังประเมินมีการคัดลอกผลงานผู้อื่น
- ต้องแจ้งแก่บรรณาธิการวารสารฯ ทันที พร้อมทั้งแสดงหลักฐานประกอบที่ชัดเจน