การท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนา : รูปแบบและเครือข่าย การจัดการท่องเที่ยวของวัดในสังคมไทย
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (๑) รูปแบบการท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนา (๒) บทบาทการส่งเสริมของวัด และความเชื่อมโยงไปสู่เครือข่ายการปฏิบัติธรรม (๓) เพื่อวิเคราะห์บทบาทของวัดที่ส่งเสริมการปฏิบัติธรรม และการจัดการเครือข่ายการท่องเที่ยวด้านการปฏิบัติธรรม การศึกษานี้ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้วิธีการสังเกต และการสัมภาษณ์ภิกษุสงฆ์ในวัดที่ส่งเสริมเป็นแหล่งท่องเที่ยวจำนวน ๑๐ วัด แล้วนำข้อมูลมาวิเคราะห์ และเขียนสรุปเชิงพรรณนา
การท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนาในสังคมไทย แบ่งออกเป็น ๒ รูปแบบ คือ (๑) วัดที่ส่งเสริมให้เป็นแหล่งชมความงามของงานพุทธศิลป์และทำบุญ ไหว้พระ ขอพร ที่มีการจัดสภาพแวดล้อมทั้งภายนอกและภายในตามบริบทของวัด มีการใช้สัญลักษณ์และการสื่อสารที่เข้าใจง่าย เป็นการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงมาก จากอดีตถึงปัจจุบัน (๒) วัดที่เน้นส่งเสริมให้เป็นสถานที่สำหรับการปฏิบัติธรรม ขณะนี้กำลังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
วัดที่ส่งเสริมให้เป็นแหล่งชมความงามของงานพุทธศิลป์ ทำบุญ ไหว้พระ ขอพร พบว่า มีการส่งเสริมกิจกรรมวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วันสำคัญของชาติ จัดงานวัฒนธรรม และบางวัดจะมีการสอดแทรกให้มีการเจริญสมาธิ มีการปฏิบัติธรรมร่วมอยู่ด้วยเสมอตามความเหมาะสม เป็นการสร้างความเชื่อมโยงให้เกิดพฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงขึ้นในจิตใจของนักท่องเที่ยว ให้สนใจการปฏิบัติธรรมในวัดที่ส่งเสริมการปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่องได้
ผลการศึกษาด้านรูปแบบและบทบาทของวัดที่ส่งเสริมให้มีการปฏิบัติธรรม พบว่า วัดที่จัดให้มีการปฏิบัติธรรม มีความเป็นเครือข่ายการปฏิบัติธรรมกันอยู่ทั่วในสังคมไทย และมีการจัดการเครือข่ายอยู่ ๒ ระดับคือ (๑) ระดับนโยบาย มีคณะกรรมการฝ่ายเผยแผ่พระพุทธศาสนา (มหาเถรสมาคม) เป็นผู้รับผิดชอบ ด้านการปฏิบัติธรรม ขณะนี้ได้จัดทำโครงการต่าง ๆ ขึ้น เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เครือข่ายการปฏิบัติธรรม มีความเป็นเอกภาพ และสร้างมาตรฐานการสอนการปฏิบัติ โดยให้ยึดแนวทางเดียวกันคือ การปฏิบัติธรรม ตามแนวสติปัฏฐานสูตร (๒) ระดับปฏิบัติการ ได้แก่ เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมต่าง ๆ ทำหน้าที่บริหารจัดการภายในสำนักของตน และบริหารจัดการสำนักสาขาให้ดำเนินงานได้อย่างราบรื่นสร้างพระวิปัสสนาจารย์ เป็นผู้นำรุ่นใหม่สืบทอดอายุพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืน
ปัจจุบันแม้มีนักท่องเที่ยวเข้าชมงานพุทธศิลป์เป็นจำนวนมาก และมีผู้สนใจเดินทางไปปฏิบัติธรรมเพิ่มขึ้น แต่พบว่าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มของผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ยังมีจำนวนของเยาวชนที่ค่อนข้างน้อย ผู้วิจัยจึงมีข้อเสนอแนะว่า หน่วยงานภาครัฐและองค์กรพระพุทธศาสนา ควรมีการขยายความรู้ ความเข้าใจในประโยชน์ที่เยาวชนพึงจะได้รับจากการเข้าร่วมปฏิบัติธรรม และส่งเสริมสนับสนุนให้เยาวชนได้แสดงความเป็นผู้นำใน การเข้าร่วมทำกิจกรรมเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาให้มากยิ่ง ๆ ขึ้น
Article Details
เอกสารอ้างอิง
บุณชญา วิวิธขจร. "การพัฒนาหลักการสอนวิปัสสนาของสำนักปฏิบัติธรรมต้นแบบ ตามแนวสติปัฏฐานสูตร". วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร., ๒๕๖๐.
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต). พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์พระพุทธศาสนาของธรรมสภา, ๒๕๕๔.
พระมหาสุทิตย์ อาภากโร, พระมหาเสรีชน นริสโร. "การพัฒนารูปแบบและกระบวนการจัดการท่องเที่ยวทางพุทธศาสนาในประเทศไทย", รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ สกว., ๒๕๕๕.
พระครูสันติธรรมาภิรัต. "ศาสนสถานแหล่งท่องเที่ยวในพระพุทธศาสนา". Journal of Nakhonratchasima College, ๒๕๕๗.
ภัชรบถ ฤทธิ์เต็ม. รูปแบบการจัดการทองเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒนธรรมในวัด. วารสารศิลปะศาสตร์
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, ๒๕๕๘.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๓๙.
สุวัฒน์ จุธากร. แนวคิดเกี่ยวกับการท่องเที่ยว. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, ๒๕๕๐.
พระราชสิทธิมุนี วิ., วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏ์. สัมภาษณ์. ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๑.
พระราชเวที, วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม. สัมภาษณ์. ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๑.
พระภาวนาเขมคุณ วิ., เจ้าสำนักวัดมเหยงคณ์. สัมภาษณ์. ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๑.
พระภาวนาโพธิคุณ วิ., เจ้าสำนักวัดธารน้ำไหล (สวนโมกข์). สัมภาษณ์. ๔ กันยายน ๒๕๖๑.
พระภาวนาธรรมาภินันท์, เจ้าสำนักวัดนาหลวง. สัมภาษณ์. ๑๔ กันยายน ๒๕๖๑.
พระศรีศิลปาจารย์, ผู้ช่วยเจ้าสำนักวัดพระธาตุศรีจอมทอง. สัมภาษณ์. ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๑.
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ. “ส่วนการศึกษาสงเคราะห์ กองพุทธศาสนศึกษา” สำรวจปี ๒๕๕๙. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: http: //www.onab.go.th [๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๐].