ผลการจัดกิจกรรมประกอบอาหารโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เพื่อส่งเสริมความฉลาดรู้ด้านอาหารในเด็กปฐมวัย

Main Article Content

แพรวพรรณ ม่วงแก้ว
ปัทมาวดี เล่ห์มงคล

บทคัดย่อ

          การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (๑) เพื่อศึกษาความฉลาดรู้ด้านอาหารหลังได้รับการจัดกิจกรรมประกอบอาหารโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ของเด็กปฐมวัย (๒) เพื่อเปรียบเทียบความฉลาดรู้ทางด้านอาหารของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังการจัดกิจกรรมประกอบอาหารโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กลุ่มเป้าหมายในการศึกษา คือ เด็กปฐมวัยชายและหญิง ที่มีอายุระหว่าง ๕ - ๖ ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ระดับชั้นอนุบาลปีที่ ๒ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ โรงเรียนลำเจดีย์ สำนักงานเขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร จำนวน ๑๕ คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ประกอบด้วย (๑) แผนการจัดกิจกรรมประกอบอาหารโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (๒) แบบประเมินความฉลาดรู้ด้านอาหารของเด็กปฐมวัยจำนวน ๓ ด้าน ประกอบด้วย ความรู้ด้านอาหาร ทักษะด้านอาหาร และพฤติกรรมด้านอาหาร
(๓) แบบบันทึกพฤติกรรมความฉลาดรู้ด้านอาหารของเด็กปฐมวัย การวิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ โดยการวิเคราะห์เนื้อหาและบรรยายเชิงพรรณนา


          ผลการศึกษาพบว่า (๑) เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมประกอบอาหารโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ มีความฉลาดรู้ด้านอาหารเพิ่มมากขึ้น โดยด้านที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านพฤติกรรมด้านอาหาร ด้านทักษะทางอาหาร และด้านความรู้ทางอาหาร ตามลำดับ (๒) เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมประกอบอาหารโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เพื่อส่งเสริมความฉลาดรู้ด้านอาหารในเด็กปฐมวัย มีคะแนนเฉลี่ยสูงขึ้นกว่าก่อนการจัดกิจกรรม

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ม่วงแก้ว แ., และ เล่ห์มงคล ป. “ผลการจัดกิจกรรมประกอบอาหารโดยใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ เพื่อส่งเสริมความฉลาดรู้ด้านอาหารในเด็กปฐมวัย”. วารสารมหาจุฬาวิชาการ, ปี 10, ฉบับที่ 1, เมษายน 2023, น. 235-48, https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JMA/article/view/259992.
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด, ๒๕๖๐.

ปรมาภรณ์ ทองสุ. “การพัฒนาการคิดทางบวกสำหรับเด็กปฐมวัยด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้”. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต (การศึกษาปฐมวัย). บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร, ๒๕๕๐.

วัฒนา มัคคสมัน. การสอนแบบโครงการสำหรับเด็ก. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๒๕๕๔.

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. คู่มือการจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการเพิ่มพูนศักยภาพศึกษานิเทศก์และครูปฐมวัย. กรุงเทพมหานคร: บริษัท โกโกพริ้นท์ (ไทยแลนด์) จำกัด, ๒๕๕๓.

สุคนธ์ สินธพานนท์. การจัดกระบวนการเรียนรู้เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ. กรุงเทพมหานคร: อักษรเจริญทัศน์, ๒๕๕๑.

สำนักงานสถิติแห่งชาติ. รายงานผลฉบับสมบูรณ์ โครงการสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๖๒. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานสถิติแห่งชาติ ประเทศไทย, ๒๕๖๓.

Bruner, J. S. The process of education. Cambridge: Harvard University Press, 1960.

Cullen, T. et al. “Food Literacy: Definition and Framework for Action”. Canadian Journal of Dietetic Practice and Research. vol. 76 No.3 (2015): 140-145.

Dewey, J. The Middle Works 1899-1924. London and Amsterdam: Feffer & Simons Inc, 1976.

Jackman, H. L. Early Education Curriculum: A Child's Connection to the word. Albany NY: Delmer, 1997.

M. Marmot and R. Wilkinson. Social determinants of health. 2nd ed. Oxford: Oxford University Press, 2006.

อรพร ดำรงวงศ์ศิริ. แพทย์ชี้เด็กไทยยุคใหม่อาจขาดสารอาหารเพราะพฤติกรรมการกิน. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://th.theasianparent.com/childred-lack-of-nutrients [๙ มีนาคม ๒๕๖๔].