รูปแบบการพัฒนาความฉลาดทางสังคมของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบความฉลาดทางสังคมของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีวัตถุประสงค์ย่อย เพื่อ ๑) วิเคราะห์องค์ประกอบความฉลาดทางสังคมของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ๒) สร้างรูปแบบความฉลาดทางสังคมของผู้บริหารการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ ๓) ประเมินรูปแบบความฉลาดทางสังคมของผู้บริหารการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมีขั้นตอนการวิจัย ๓ ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ ๑ วิเคราะห์องค์ประกอบความฉลาดทางสังคมของผู้บริหารการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยศึกษาเอกสารสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ ๗ คน เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง ๑๓๙ โรงเรียน จำนวน ๕๕๖ คน ขั้นตอนที่ ๒ สร้างรูปแบบความฉลาดทางสังคมของผู้บริหารการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยการตรวจสอบรูปแบบด้วยวิธีการสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญ จำนวน ๙ คน ขั้นตอนที่ ๓ ประเมินรูปแบบความฉลาดทางสังคมของผู้บริหารการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยเก็บข้อมูลจากผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมศึกษา จำนวน ๙ คน
ผลการวิจัยพบว่า ๑) การวิเคราะห์องค์ประกอบความฉลาดทางสังคมของผู้บริหารการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามเกณฑ์ที่กำหนด ได้ ๖ องค์ประกอบ ได้แก่ ทักษะทางสังคมของผู้นำ การสื่อสารและการจูงใจ การตระหนักรู้ต่อสังคม การสื่อสัมพันธ์ทางสังคม การสนทนาทางสังคม และบุคลิกภาพทางสังคม ๒) รูปแบบความฉลาดทางสังคมของผู้บริหารการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประกอบด้วย ๓ ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ ๑ ส่วนนำ ส่วนที่ ๒ เนื้อหา ประกอบด้วย องค์ประกอบหลักของรูปแบบความฉลาดทางสังคมของผู้บริหาร
การศึกษาขั้นพื้นฐาน และแนวทางการพัฒนาตนเอง และ ส่วนที่ ๓ เงื่อนไขความสำเร็จของการนำรูปแบบไปใช้ ๓) การประเมินรูปแบบความฉลาดทางสังคมของผู้บริหารการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้านความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนการประเมินคุณภาพคู่มือการใช้รูปแบบความฉลาดทางสังคมของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กาญจน์กมล สุวิทยารัตน์. “การศึกษาและพัฒนาความฉลาดทางสังคมของนักศึกษาสถาบันอุดมศึกษาภาคใต้”. วิทยานิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาจิตวิทยาการให้คำปรึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, ๒๕๕๗.
ทองทิพภา วิริยะพันธ์. ผู้บริหารยุคบรรษัทภิบาล. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์อินเฟอร์มีเดียบุ๊ค, ๒๕๔๕.
ธีระ รุญเจริญ. การบริหารโรงเรียนยุคปฏิรูปการศึกษา. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ข้าวฟ่าง. ๒๕๔๖.
ประจวบ แจ้โพธิ์. “ความคิดเห็นของครูต่อบทบาทผู้บริหารในการพัฒนาการทำงานเป็นทีมของครูในโรงเรียน สำนักงานเขตบึงกุ่ม สังกัดกรุงเทพมหานคร”. วารสารสุทธิปริทัศน์,.ปีที่ ๒๘ ฉบับที่ ๘๗ (กรกฎาคม-กันยายน 2557): 269
เพชรยุพา บูรณ์สิริจรุงรัฐ. “รูปแบบการพัฒนาความฉลาดทางสังคมของพนักงานบริษัท จำกัด (มหาชน) ที่เกี่ยวกับธุรกิจสื่อสารมวลชนในประเทศไทย”. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยรามคำแหง, ๒๕๕๕.
วนิษา เรซ. อัจฉริยะสร้างได้. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์เรด, ๒๕๕๐.
วีรวัฒน์ ปันนิตามัย. เชาว์อารมณ์ (EQ) : ดัชนีเพื่อความสุขและความสำเร็จในชีวิต. พิมพ์ครั้งที่ ๗. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๒๕๕๑.
สุขุม เฉลยทรัพย์. “บทบาทของผู้บริหารในการส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับสมองของเด็กปฐมวัย”. ในการอบรมผู้บริหารสถานศึกษาในการส่งเสริมการเรียนในเด็กปฐมวัย. (๒๖-๒๗ สิงหาคม ๒๕๔๙) มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต, ๒๕๔๙.
อาคม วัดไธสงค์. หน้าที่ผู้นำในการบริหารการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ ๒. สงขลา: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยทักษิณ, ๒๕๔๗.
อำนวย เดชชัยศรี, สุทธิพงษ์ ศรีวิชัย. “ทักษะการบริหารมนุษยสัมพันธ์ตามแนวพุทธ”. วารสารมหาจุฬาวิชาการ, ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๑ (มกราคม-มิถุนายน ๒๕๖๐): ๕๓.
Buzan, T. The power social intelligence. Welling borough. England: Thorsons, 2003.
Corrigan, P.W. “Beat the stigma: Come out of the closet”. Psychiatric Services. vol.54 No.1: 13.
Flavell, J. H. “Role-taking and communication skills in children”. Young Children, vol. 21: 164-177.
Herbert, A. S. Administrative behavior : A study of decision-making processes in administrative organizations. New York: The Free Press, 1947.
Vernon, P.E. “Some characteristics of the good judge of personality”. Journal of Social Phycology, vol.4: 42-47.
Wayne K. Hoy, and Cecil G, Miskel. Educational Administration: Theory-ResearchPractice. New York: McGraw – Hill, 1991.