การศึกษาวิเคราะห์ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช

Main Article Content

เดชชาติ ตรีทรัพย์ และคณะ

บทคัดย่อ

     งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ ๑. เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมา ความเชื่อ รูปแบบและพฤติกรรมการปฏิบัติในประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ พระสงฆ์และนักวิชาการผู้ที่บทบาทเกี่ยวข้องกับพระธาตุเจดีย์ และประชาชนที่มาเข้าร่วมประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ จำนวน ๑๕ รูป/คน เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลในการวิจัยเป็นแบบสัมภาษณ์เชิงลึก และการสังเกตแบบไม่มีส่วนร่วม วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาความสอดคล้องและไม่สอดคล้อง ที่มีความสัมพันธ์และมีความแตกต่างกัน แล้วจึงนำข้อมูลมาตรวจสอบความถูกต้องและตรวจสอบความน่าเชื่อถือ เสนอข้อมูลโดยแยกแยะประเด็นตามขอบเขตของเนื้อหา ด้วยวิธีพรรณนาวิเคราะห์


     ผลการวิจัยพบว่า
     ๑. ตามประวัติศาสตร์ความเป็นมาและความเชื่อเกี่ยวกับการแห่ผ้าขึ้นธาตุ พบว่า เมื่อปี พ.ศ.๑๗๗๓ พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ได้บูรณะพระธาตุเจดีย์แล้วเสร็จ จึงจัดพิธีสมโภช ชาวปากพนังมากราบทูลว่า คลื่นได้ซัดเอาแถบผ้าผืนหนึ่ง ซึ่งมีภาพเขียนเรื่องพุทธประวัติมาขึ้นที่ชายหาดปากพนัง จึงเก็บผ้านั้นมาถวาย พระองค์ทรงรับสั่งให้ซักผ้านั้นจนสะอาด จึงเห็นภาพวาดพุทธประวัติ เรียกกันว่า “ผ้าพระบฏ” ทรงรับสั่งให้ประกาศหาเจ้าของ จึงทราบความว่า เป็นของชาวพุทธจากเมืองหงสาวดี ประเทศพม่า บางท่านกล่าวว่า เป็นของชาวพุทธจากเมืองอินทรปัฏ ประเทศกัมพูชา จะนำผ้าพระบฏไปบูชาพระพุทธบาทที่ลังกา พระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นว่าควรนำผ้าพระบฏไปห่มพระบรมธาตุเจดีย์ เนื่องในโอกาสจัดพิธีสมโภช ประเพณีจึงสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน เพราะเชื่อว่า การจะทำบุญหรือกราบไหว้บูชาพระพุทธเจ้าให้ได้กุศลจริงๆ ต้องปฏิบัติเฉพาะพระพักตร์พระพุทธองค์เท่านั้น ชาวนครจึงนำเอาผ้าไปบูชาพระบรมธาตุเจดีย์ โดยการโอบรอบฐานองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ก็คือการบูชาที่สนิทแนบกับองค์พระพุทธองค์นั่นเอง
     ๒. รูปแบบและพฤติกรรมการปฏิบัติในประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ เริ่มจากการกำหนดวันประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ ปีละ ๒ ครั้ง ปัจจุบันเหลือเพียง ๑ ครั้ง คือในวันเพ็ญเดือน ๓ (คือวันมาฆบูชา) ผ้าที่นำขึ้นห่มพระบรมธาตุ ใช้สีขาว เหลือง และแดง พุทธศาสนิกชนจะตระเตรียมผ้าขนาดความยาวตามความศรัทธาของตน นำผ้ามาผูกต่อกันเป็นขนาดยาวที่สามารถห่มพระบรมธาตุรอบองค์ได้ ส่วนผืนพิเศษจะเขียนภาพพุทธประวัติ ขบวนประเพณีตั้งต้นมาจากสนามหน้าเมือง จัดแห่แหนพร้อมด้วยอาหารคาวหวาน เครื่องอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นไปถวายพระสงฆ์ในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร โดยการหาบคอนไปเป็นขบวนแห่อันสวยงาม ขบวนแห่ทุกขบวนนิยมใช้ดนตรีพื้นบ้านนำหน้าขบวน บรรเลงจังหวะที่ครึกครื้น ขบวนจะเดินเป็นแถวเรียงเป็นริ้วยาวไปตามความยาวของผืนผ้า ทุกคนชู (เทิน) ผ้าพระบฎไว้เหนือศีรษะ เดินผ่านถนนราชดำเนินมา เมื่อขบวนแห่ถึงวัด ก็แห่ทักษิณาวัตรรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ๓ รอบ จากนั้นจะประกอบพิธีไหว้พระ อาราธนาพระเจริญพระพุทธมนต์ และทำพิธีถวายผ้าพระบฏ แล้วนำผ้าเข้าสู่วิหารพระทรงม้า บางคณะมาเป็นคณะใหญ่ บางคณะมาเพียง ๒-๓ คน มีการตักบาตรพระตอนเช้า แล้วจึงนำผ้ามาแห่ขึ้นธาตุตั้งแต่ ๗ โมงเช้าเริ่มตั้งขบวน ขบวนก็จะไหลไปเรื่อย ๆ ต่างคนต่างแห่ ขบวนชาวบ้านนำผ้าเดินเวียนรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ที่ไม่เป็นขบวน ไร้รูปแบบ
ต่างแถวต่างไป ผ้าใครผ้ามัน ส่วนขบวนของทางราชการจะแห่ผ้าตอนบ่าย และไม่เดินวนรอบพระบรมธาตุเจดีย์ ในขบวนมีการจัดเตรียมดอกไม้ ธูปเทียน เพื่อบูชาพระบรมธาตุด้วย มีเครื่องดนตรีพื้นบ้านนำหน้าขบวน มีการขับร้อง ฟ้อนรำ การแต่งกายส่วนมากใส่ผ้าสีขาว หรือผ้าไหม ผ้าลูกไม้ บางคนมีศรัทธามากถึงกับถอดรองเท้าเดินแห่ผ้าในเวลาเที่ยง บางขบวนมีพระภิกษุสงฆ์เดินนำหน้าขบวน

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ตรีทรัพย์ และคณะ เ. “การศึกษาวิเคราะห์ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช”. วารสารมหาจุฬาวิชาการ, ปี 4, ฉบับที่ 1, สิงหาคม 2018, น. 65-75, https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JMA/article/view/141787.
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กาญจนา สวนประดิษฐ์. “ผีตาโขน : ศึกษาเฉพาะกรณีอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย”. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, ๒๕๔๓.

กิ่งแก้ว อัตถากร. คติชนวิทยา. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, ๒๕๒๐.

จารุเกตุ กาญจนนาภา. “ประเพณีรามัญในอำเภอประประแดง จังหวัดสมุทรปราการ”. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๔๓.

จารุวรรณ ธรรมวัตร. คติชาวบ้านอีสาน. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์อักษรวัฒนา, ๒๕๔๘.

จันทรา ทองสมัคร. ประเพณีท้องถิ่นนครศรีธรรมราช. นครศรีธรรมราช, ๒๕๔๐.

ณรงค์ บุญสวยขวัญ. “วิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากการพัฒนาของรัฐในระยะแผนพัฒนาฉบับที่ ๑-๘”. วิจัยเรื่องโครงสร้างและพลวัตวัฒนธรรมภาคใต้กับการพัฒนาของเมธีวิจัยอาวุโส ศาสตราจารย์สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์. สำนักงานกองทุน

สนับสนุนการวิจัย, ๒๕๔๓.

ถนอมศิลป์ โทบุญ. “โลกทัศน์ต่อประเพณีบุญบั้งไฟของชาวตำบลหนองแสง อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม”. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, ๒๕๔๐.

ทิพย์สุดา นัยพันธ์. ภาษากับวัฒนธรรม. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์การศาสนา, ๒๕๓๕.

บุปผา ทวีสุข. คติชาวบ้าน. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง, ๒๕๒๐.

ประมวล พิมพ์เสน. ความเชื่อเรื่องผี เล่ม ๔. ขอนแก่น: โรงพิมพ์พระธรรมขันต์, ๒๕๔๖.

ปรีชา นุ่นสุข. “วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร” ใน รัตนธัชมุนีอนุสรณ์ ที่ระลึกงานพระราชทานพระมหาธนูฤทธิ์ ดวงดี. “ความสัมพันธ์ของชุมชนสองฝั่งโขง ในประเพณีฮีตสิบสอง: กรณีชุมชนวัดมีชัย อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย กับชาวบ้านท่าม่วง เมืองหาดทรายฟองกำแพงนครเวียงจันทร์”. การศึกษาค้นคว้าอิสระ. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, ๒๕๔๓.

พวงผกา คุโรวาท. ศิลปะและวัฒนธรรมไทย. กรุงเทพมหานคร : รวมสาสน์, ๒๕๓๙.

พวงพิกุล มัชฌิมา. “บุญข้าวประดับดินและบุญข้าวสากบ้านกุดรัง ตำบลกุดรัง อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม”. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, ๒๕๔๒.

พิชญ์ สมพอง. สังคมชาวบ้าน. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง, ๒๕๒๒.

ภักดี เอื้อราษฎร์. “การศึกษาเปรียบเทียบประเพณีบุญพระเวสของจังหวัดร้อยเอ็ดกับบ้านบ่อใหญ่ตำบลบ่อใหญ่ อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, ๒๕๔๐.

รัตนา สิงห์พร. “ประเพณีทำบุญแจกข้าวของชาวบ้านบ่อใหญ่ ตำบลบ่อใหญ่ อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม”. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, ๒๕๔๒.

วัฒนา จันทรจนา. “ประเพณีลากพระของชาวจังหวัดปัตตานี”. ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ภาคใต้, ๒๕๓๗.

วิทยาลัยครูนครศรีธรรมราช. ชีวิตไทยปักษ์ใต้. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์อักษรสัมพันธ์, ๒๕๑๙.

สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา. น้ำ : บ่อเกิดแห่งวัฒนธรรมไทย. โรงพิมพ์อักษรสัมพันธ์, ๒๕๒๘.

สุพัตรา สุภาพ. สังคมและวัฒนธรรมไทย. กรุงเทพมหานคร : ไทยวัฒนาพานิช, ๒๕๑๘.

สมเด็จพระญาณสังวร. หลักพระพุทธศาสนา. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์พัฒนาศึกษา, ๒๕๑๖.

สมพงษ์ เกรียงไกรเพชร. ประเพณีไทยโบราณ. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์จรัลสนิทวงศ์, ๒๕๑๕.

เสถียร โกเศศ. (พระยาอนุมานราชธน). การศึกษาเรื่องประเพณีไทยและชีวิตชาวไทยสมัยก่อน. กรุงเทพมหานคร: คลังวิทยา, ๒๕๑๕.

Mavis Hiltunen Biesanz and John Beisanz. Op,cit. Popeonoe. David. Sociology. (4 th. Ed,), Englewood Cliffs. New Jersey : Prentice-Hall. Inc., 1980.

Theodore Coplow, Po.cit. Webster’s Thrd New International Dictionanry. Springfield Massachusetts : G & C Merriam Co., 1996.