กระบวนการสร้างสาธารณโภคีธรรม ขององค์กรพุทธศาสนาในประเทศไทย

Main Article Content

พระครูธรรมธรศิริวัฒน์ สิริวฑฺฒโน
พระสุภาพร เตชธโร

บทคัดย่อ

     การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา ๑) เพื่อศึกษาหลักสาธารณโภคีธรรมในพระพุทธศาสนา ๒) เพื่อศึกษากระบวนการสร้างสาธารณโภคีธรรมขององค์กรพุทธศาสนาในเขตพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ๓) เพื่อศึกษาวิเคราะห์ผลการใช้หลักสาธารณโภคีธรรมต่อสังคมในประเทศไทย เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสัมภาษณ์ และแบบการสังเกต การเก็บรวบรวมข้อมูล โดยการสัมภาษณ์และสังเกตแบบมีส่วนร่วม กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการองค์กรพระพุทธศาสนาในเขตพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ประกอบด้วย พระสงฆ์ ผู้นำองค์กร ประชาชน จำนวน ๒๐ คน วิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลด้วยการตีความและสร้างข้อสรุป


     ผลการวิจัยพบว่า


     ๑) หลักสาธารณโภคีธรรมในพระพุทธศาสนา คือ หลักของการแบ่งปัน ช่วยเหลือ เฉลี่ยเจือจานให้ได้ใช้สอยร่วมกัน โดยมีแนวคิดความเป็นมาจากหลักธรรมหนึ่งซึ่งอยู่ในหลักสาราณียธรรม ๖ กลุ่มสันติอโศกได้นำมาพัฒนาใช้จนเกิดเป็นระบบ แบบแผนหรือวิถีชีวิต ให้มีคุณลักษณะพึ่งตนเองได้ ในทางพระพุทธศาสนาพบว่าการแบ่งปันช่วยเหลือแบ่งออกได้ ๒ ชนิดคือ ๑. สิ่งของที่เป็นปัจจัย ๔ (อามิสทาน) ๒. สิ่งของที่เป็นศิลปวิทยาการ(ธรรมทาน)


     ๒) กระบวนการสร้างสาธารณโภคีธรรมขององค์กรพระพุทธศาสนาในเขตพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี พบว่ามีกระบวนการขั้นตอนลำดับในการสร้างสารณโภคีธรรมขององค์กรพระพุทธศาสนา ๕ ขั้นตอน คือ ๑) การกำหนดเป้าหมายขององค์กร ๒) ขั้นตอนการจัดตั้งองค์กร ๓) การกำหนดคุณสมบัติผู้นำการบริหารองค์กร ๔) กิจกรรมในการดำเนินการ ๕) ผลจากกิจกรรมในการดำเนินการ โดยผ่านองค์กรพุทธที่ศึกษา ๓ แห่ง คือ (๑) ศูนย์อบรมคุณธรรมจริยธรรมดงวังอ้อ จัดตั้งขึ้นเพื่อการไขปัญหาเยาวชน และการพัฒนาชุมชน (๒) ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนพลาญข่อย เน้นการดำเนินงานช่วยเหลือสังคม ใช้สาธารณโภคีด้วยการให้ความรู้ แบ่งปันศิลปะวิทยาการทางโลก รวมทั้งศิลปะวิทยาการทางธรรม (๓) ศูนย์ยุวพุทธิก-สมาคมจังหวัดอุบลราชธานี เน้นการดำเนินงานช่วยเหลือสังคม ด้วยการตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรม และสอน พระพุทธศาสนาวันอาทิตย์รวมทั้งจัดกิจกรรมทางศาสนาและงานประจำจังหวัดที่เกี่ยวข้อง


     ๓) ผลการใช้หลักสาธารณโภคีธรรมต่อสังคมในประเทศไทย พบว่าการใช้หลักสาธารณโภคีธรรม ในกลุ่มองค์กรพุทธ ในปัจจุบันแบ่งการช่วยเหลือใน ๓ ด้าน คือ ๑) การรักษาพยาบาลและดูแลสุขภาพ ๒) การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ๓) การศึกษาสงเคราะห์ ซึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี นั้นได้นำหลักสาธารณ โภคีมาปรับประยุกต์ทั้งในระดับบุคคล และในระดับองค์กรพุทธ กล่าวคือ ในระดับบุคคลนำสู่การดำเนิน ถูกต้องตามหลักของมัชฌิมาปฏิปทาให้เกิดขึ้น ถือเรื่องจิตใจนั้นมีค่าสูงกว่าคุณค่าทางวัตถุ ทั้งยังช่วยพัฒนา คุณธรรมให้สูงขึ้นในตน ส่วนในระดับองค์กรพุทธ หรือสังคม สามารถประยุกต์เป็นปัจจัยเสริมสร้างดีงาม สร้างหรือพัฒนาสังคมให้มีความเจริญ มีความเป็นปึกแผ่นมั่นคงดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข สงบเย็น

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
สิริวฑฺฒโน พ., และ เตชธโร พ. “กระบวนการสร้างสาธารณโภคีธรรม ขององค์กรพุทธศาสนาในประเทศไทย”. วารสารมหาจุฬาวิชาการ, ปี 4, ฉบับที่ 1, สิงหาคม 2018, น. 76-87, https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JMA/article/view/141788.
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

ประทุม อังกูรโรหิต. สถาบันทางพระพุทธศาสนากับงานสังคมสงเคราะห์. โครงการวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการวิจัยพุทธศาสน์ศึกษา. กรุงเทพมหานคร: ศูนย์พุทธศาสน์ศึกษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๒๕๕๓.

พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต). พจนานุกรม ฉบับประมวลธรรม. พิมพ์ครั้งที่ ๑๒. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๔๖.

มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๓๙.

Don Hellriegel. John W. Slocom and Richard W. Woodman. Organizational Behavior. 8 th ed..Ohio : South-Western College Publishing, 1998.

พระครูสุขุมวรรโณภาส. ประธานศูนย์พัฒนาคุณธรรมป่าดงใหญ่วังอ้อ ตำบลหัวดอน อำเภอเขื่องในจังหวัดอุบลราชธานี, ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๗.

พ่อครูบัญชา ตั้งวงษ์ไชย. ประธานศูนย์การเรียนรู้ชุมชนพลาญข่อย. ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๖.

พระครูพุทธศักดิสมณกิจ. ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุปัฏนารามวรวิหาร อ.เมือง จ.อุบลราชธานี, ๒๕ ตุลาคม ๒๕๕๗.