การถอดบทเรียนการพัฒนาทุนทนุษย์ของชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืนตามโครงการสระแก้วเมืองแห่งความสุข จังหวัดสระแก้ว
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษารูปแบบการพัฒนามนุษย์ตามโครงการสระแก้วเมืองแห่งความสุข และ ๒) เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนามนุษย์ตามโครงการสระแก้วเมืองแห่งความสุขซึ่งเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Quantitative Research) เพื่อบุกเบิกข้อมูล (Exploratory Research) โดยการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) จากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key Informants) สุ่มตัวอย่างโดยวิธีบอกต่อ (Snow ball Sampling) ที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือแบบสัมภาษณ์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) เพื่อตอบวัตถุประสงค์ของการวิจัย ผลการวิจัยพบว่า การดำเนินโครงการสระแก้วเมืองแห่งความสุขภายใต้ ๔ ดี วิถีพอเพียง มีระบบและกลไกการขับเคลื่อนที่มีความชัดเจน ซึ่งประกอบไปด้วยมีองค์ประกอบสำคัญ ๓ ส่วนคือ (๑) ภาควิชาการ (๒) ภาคประชาสังคม และ (๓) ภาครัฐ/ท้องถิ่น ผ่านคณะทำงานใน ๔ ระดับ ประกอบไปด้วยระดับจังหวัด ระดับอำเภอ ระดับตำบล และระดับชุมชน ซึ่งในหมวดคนดี มีสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้วเป็นหน่วยงานหลักที่ขับเคลื่อนซึ่งได้อาศัยรูปแบบการสานพลังประชารัฐ (บ้าน วัด และส่วนราชการ) ในส่วนของระดับอำเภอนั้น อำเภอตาพระยาได้ยกระดับการขับเคลื่อนหมวดคนดีด้วยกิจกรรมถนนสายบุญเกื้อหนุนสังคม จากพื้นที่นำร่องตำบลทัพไทย ไปสู่การขับเคลื่อนในระดับอำเภอ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการระดมทุนจากคนในอำเภอเพื่อจัดตั้งเป็นกองทุนเรารักตาพระยา คนตาพระยาไม่ทอดทิ้งกัน และมีการจัดทำธรรมนูญบ้านแห่งความสุข ๔ ดีวิถีพอเพียงขึ้น เพื่อใช้เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนให้เกิดรูปธรรมที่ชัดเจนและมีความยั่งยืน และในระดับชุมชน มีตัวอย่างที่ชัดเจน คือบ้านคลองอาราง ตำบลบ้านแก้ง อำเภอเมืองสระแก้ว ที่มีการจัดทำธรรมนูญบ้านคลองอารางขึ้นในปีพ.ศ. ๒๕๕๕ และธรรมนูญดังกล่าวก็ได้ถูกพัฒนาและยกระดับไปเป็นธรรมนูญสุขภาพตำบลบ้านแก้งในปี พ.ศ. ๒๕๕๖ สำหรับข้อเสนอแนะ คือ ๑) หน่วยงานของกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ควรเป็นหน่วยงานหลักในการทำงาน เนื่องจากเป็นหน่วยงานในพื้นที่ รวมถึงมีงบประมาณและบุคลากร ๒) ควรจัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน และ ๓) ควรมีการใช้สื่อที่มีความหลากหลาย ซึ่งถือได้ว่าเป็นเครื่องมือที่สำคัญและต้นทุนไม่สูงที่สามารถเข้าถึงประชาชนได้ทุกแห่ง เช่นหอกระจายข่าวชุมชน วิทยุท้องถิ่น เคเบิลทีวีท้องถิ่น Social media วารสารและสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ในการสร้างความเข้าใจถึงแนวคิดจังหวัดจัดการตนเองให้รับการกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง
Article Details
เอกสารอ้างอิง
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. ฐานข้อมูลโครงการพัฒนาพื้นที่ราบเชิงเขาจังหวัด สระแก้ว-ปราจีนบุรีตามพระราชดำริ (ระยะที่ ๓). กรุงเทพมหานคร: สหมิตรพริ้นติ้งแอนด์พับลิซซิ่ง, ๒๕๕๘.
อาคม เติมพิทยาไพสิฐ และธานินทร์ ผะเอม. "แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ ฉบับที่ ๑-๑๑ (กันยายน ๒๕๕๒)". เอกสารประกอบการอบรมหลักสูตรนักบริหารระดับสูง กระทรวงอุตสาหกรรม รุ่นที่ ๑๐. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, ๒๕๕๒.
สัมภาษณ์
ไชยนันท์ แสงทอง. วัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว, ๒๐ กันยายน ๒๕๖๑.
ณรงค์ ปุริสพันธ์. สาธารณสุขอำเภอตาพระยา, ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๑.
ทองสา ถาวรสาลี. กำนันตำบลหนองแวง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว, ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๑.
พัฒนา พรมเผ่า. ผู้ใหญ่บ้านบ้านคลองอาราง ตำบลบ้านแก้ง อำเภอเมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว, ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๑.
เว็บไซต์
กรมการศาสนา. ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา : https://www.dra.go.th/th/Buddhist%๒๐Studies/index.html [๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑].
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.รายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากรจำแนกตามภาคและจังหวัด พ.ศ.๒๕๔๘ -๒๕๕๗. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: http://service.nso.go.th /nso/web/statseries/statseries๑๕.html (๒๕๖๐). [๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๑].