การพัฒนาภาวะผู้นำกับความฉลาดทางอารมณ์ของผู้บริหารตามแนวพระพุทธศาสนา
Main Article Content
บทคัดย่อ
ในการบริหารองค์กร บุคคลที่สำคัญที่สุดในการผลักดันองค์กรสู่ความสำเร็จดังกล่าวคือ ผู้บริหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริหารที่สามารถใช้ทั้งความคิด สติปัญญา เพื่อแก้ไขปัญหา นับว่าเป็นผู้ที่มีความฉลาดทางอารมณ์
ความฉลาดทางอารมณ์ในทางพระพุทธศาสนานั้นมีฐานอยู่ที่สติ ทำให้รู้จักตนเอง ตรวจสอบตนเอง ควบคุมตนเอง พร้อมทั้งสามารถที่จะพัฒนาคุณสมบัติของจิตที่เป็นฝ่ายกุศลให้แสดงออกมาปฏิบัติการได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมในแต่ละเหตุการณ์ ความฉลาดทางอารมณ์ที่ทำให้ผู้บริหารและทุกคนในองค์กรทำงานได้อย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จด้วยการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ตามหลักไตรสิกขา คือ ๑) การพัฒนาทางกาย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง มีบุคลิกลักษณะที่สง่างาม หน้าตาผ่องใส สามารถปฏิบัติงานได้อย่างดี ด้วยวิธีการประพฤติปฏิบัติตามศีลห้า ๒) การพัฒนาทางจิต เพื่อให้จิตมีสมาธิ เมื่อจิตมีสมาธิ สติสัมปชัญญะก็มีมากขึ้น ผู้บริหารสามารถคิด พิจารณา ในการวางแผนปฏิบัติงานตลอดถึงแก้ไขปัญหาอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย ด้วยวิธีพิจารณาถึงหลักสามัญลักษณะ กอร์ปด้วย อนิจจัง เป็นภาวะไม่คงที่ ไม่แน่นอน ไม่ถาวรของสรรพสิ่ง เช่น ปัญหาของตนและองค์กร ซึ่งผู้บริหารจะต้องรู้และเข้าใจพร้อมแก้ไขได้ ทุกขัง เป็นความไม่คงทนต่อสภาพเดิม เช่น คนในองค์กรและองค์กรต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจยุคโควิด ทั้งผู้บริหารและทุกคนในองค์กรต้องยอมรับและพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาไปด้วยกัน อนัตตา เป็นความไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง เช่น องค์กรอาจถูกปิดกิจการไป หรือคนในองค์กรถูกเลิกจ้าง หรือเปลี่ยนแปลงโยกย้ายไปที่อื่น ผู้บริหารจะต้องรู้จักการสร้างมนุษยสัมพันธ์ รู้จักอดทน อดกลั้น และสร้างขวัญกำลังใจให้กับพนักงาน ผู้บริหารที่ได้รับการฝึกพัฒนาจิตจนมีสมาธิแกร่งกล้าจนมีทัศนวิสัยที่ดีต่อองค์กร จะเป็นผู้ที่มีความฉลาด รู้เท่าทันสภาวการณ์ที่จะเกิดขึ้นทั้งหมดและพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงไปได้ การฝึกฝนทัศนวิสัยนี้ เป็นกระบวนการพัฒนาตามหลักไตรสิกขา คือ การฝึกอบรมด้านความประพฤติ เรียกว่า อธิสีลสิกขา การฝึกอบรมด้านจิตใจ เรียกว่า อธิจิตตสิกขา และการฝึกอบรมทางปัญญา เรียก อธิปัญญาสิกขา
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กรมสุขภาพจิต. คู่มือความฉลาดทางอารมณ์. กรุงเทพมหานคร : ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย, ๒๕๔๓.
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตโต). พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม. พิมพ์ครั้งที่ ๑๗. กรุงเทพมมหานคร : โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๕๑.
วีระวัฒน์ ปันนิดานัย. “เชาวน์อารมณ์ (Emotional quotient - EQ) : ดัชนีวัดความสุขและความสำเร็จของชีวิต”. พิมพ์ครั้งที่ ๗ ฉบับปรับปรุง. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๒๕๕๑.
อำนาจ บัวศิริ. “กระบวนการสร้างภาวะผู้น้ำด้วยหลักไตรสิขา”. วารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์. ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๓ (กันยายน – ธันวาคม ๒๕๖๑) : ๑ – ๓.
Daniel Goleman. Emotional Intelligence. New York : Bantam Books. 1995. Nancy Gibbs. “The EQ Factor” Time, 9 (October 1995) : 24 – 31.
นิเทศ สนั่นนารี. “การพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ตามแนวพุทธเพื่อความสำเร็จในการทำงาน”. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา. : จาก KNATION BLOG. knation.nationtv/blog/mcukkpa/2018/08 [๒๙ มกราคม ๒๕๖๕].
พรรณี บุญประกอบ. “อีคิวในแนวทางพุทธศาสนา”. วารสารพฤติกรรมศาสตร์ ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๑, หน้า ๗ – ๑๓. (เรียบเรียงจากการบรรยายพิเศษของพระราชวรมุนี (ประยูร ธมฺมจิตโต) แก่กองบรรณาธิการวารสารพฤติกรรมศาสตร์ ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย). [ออนไลน์]. แหล่งที่มา : http://bsris.swu.ac.th/journal/50842/file/52.pdf [๒๙ มกราคม ๒๕๖๕].
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากิติยากรวรลักษณ์กรมพระจันทบุรีนฤนาถ. (๒๔๗๐). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับสยามรัฐ. เล่มที่ ๑๐ พระสุตตันปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค มหาสติปัฏฐานสูตร ย่อหน้า ๒๓๗. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา : http:// www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=10&A=6257&Z=6764&pagebreak=0 [๒๙ มกราคม ๒๕๖๕].
พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตโต). “กรรมฐานกับความฉลาดทางอารมณ์ (EQ)” บรรยายแก่นิสิตคณะสังคมศาสตร์ ปีที่ ๑ – ๔ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โครงการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ณ. มหาจุฬาอาศรม ตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๓. คลิกฟังเสียง/ดาวน์โหลดปาฐกถา. “กรรมฐานกับความฉลาดทางอารมณ์ (EQ)”. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: www.watprayoon.com/main.php?url=dhamma_view&id=2818&cat= D&dhamid=1 [๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๔].