การศึกษาการรับรู้ด้านสุขภาพ ความกังวลต่อไวรัส Covid-๑๙ และ ภาวะสุขภาพจิต นักศึกษาพยาบาลศาสตร์

Main Article Content

ธิดารัตน์ คณึงเพียร
จิรสุดา ทะเรรัมย์

บทคัดย่อ

     การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระดับการรับรู้สุขภาพและความกังวลต่อ COVID-๑๙ และภาวะสุขภาพจิต ความสัมพันฺธ์และปัจจัยทำนายภาวะสุขภาพจิตของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์ ในช่วงสถานการณ์ของการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด-๑๙ เป็นการวิจัยแบบสำรวจและหาความสัมพันธ์เชิงทํานาย กลุ่มตัวอย่าง นักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์ โดยคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง ในชั้นปีที่  ๒ -
๔ ที่ลงทะเบียนในปีการศึกษา ๒๕๖๓ ที่ยินดีเข้าร่วมการวิจัย จำนวน ๓๐๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๘๙.๗๑ เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ (๑)
ข้อมูลส่วนบุคคล (๒) ภาวะสุขภาพจิต (๓) การรับรู้สุขภาพ (๔)
แบบคัดกรองความกังวลต่อ COVID-๑๙ ข้อคำถามมีค่า Cronbach’s alpha coefficient ตรวจสอบความเชื่อมั่น (reliability) ของแบบวัดการรับรู้ด้านสุขภาพ เท่ากับ .๗๙  แบบสอบถามด้านความวิตกกังวลต่อโรคโควิด-๑๙ เท่ากับ .๘๓ และ แบบคัดกรองปัญหาสุขภาพจิต Thai GHQ-๒๘ เท่ากับ .๙๖ ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษาพยาบาลศาสตร์มีการรับรู้ด้านสุขภาพอยู่ในระดับมาก โดยการรับรู้ความสามารถของตนเองในการป้องกันโรค มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (mean =๘.
๖๙ S.D=๑.๒๗) ความกังวลใจต่อ COVID-๑๙ อยู่ในระดับปานกลาง (mean = ๘.๒๐ S.D=๑.๔๒) การรับรู้ความคาดหวังของผลลัพธ์ของการป้องกันโรค การรับรู้ความสามารถของตนเองในการป้องกันโรค มีความสัมพันธ์กับภาวะสุขภาพจิตของนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ p < .๐๕ การรับรู้ความสามารถตนเองสามารถของตนเองในการป้องกันโรค ทำนายภาวะสุขภาพจิต ได้ร้อยละ ๒.๑๐ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ.๐๕ (R = .๐๑๘) ดังนั้น การส่งเสริมรับรู้ความสามารถของตนเองจะช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตในช่วงสถานการณ์การระบาดของโควิด-๑๙ ได้

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
คณึงเพียร ธ., และ ทะเรรัมย์ . จ. “การศึกษาการรับรู้ด้านสุขภาพ ความกังวลต่อไวรัส Covid-๑๙ และ ภาวะสุขภาพจิต นักศึกษาพยาบาลศาสตร์”. วารสารมหาจุฬาวิชาการ, ปี 9, ฉบับที่ 1, เมษายน 2022, น. 307-19, https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JMA/article/view/257406.
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

เชาวลิต ศรีวิจิตรา จิตรรักษ์ บุปผา ใจมั่น พิชนิกาญ์ เชื้อกาญจน์. “ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับภาวะบีบคั้นทางจิตใจของนักศึกษาพยาบาลในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา ๒๐๑๙”. วารสารสุขภาพและการศึกษาพยาบาล ปีที่ ๒๗ ฉบับที่ ๑ (พฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๔): ๗๕-๙๐

มาลี เกื้อนพกุล สุวิมล พนาวัฒนกุล พีรยา นันทนาเนตร. “ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ความเชื่อด้านสุขภาพกับพฤติกรรมการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-๑๙ ของบุคลากรและนักศึกษาพยาบาล คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี”. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข. ปีที่ ๓๑ ฉบับที่ ๑ (มกราคม- เมษายน ๒๕๖๔): ๘๑-๙๒.

มาลีวัลย์ เลิศสาครศิริ. “ความเครียดและการจัดการความเครียดของนักศึกษาพยาบาล ขณะฝึกปฏิบัติงานห้องคลอด”. วารสารเกื้อการุณย์. ปีที่ ๒๒ ฉบับที่ ๑ (มกราคม -มิถุนายน ๒๕๕๘): ๔๕-๕๕

Rogers RW. Cognitive and physiological processes in fear appeals and attitude change: A revised theory of protection motivation. In J. Cacioppo & R. Petty (Eds.), Social psychophysiology. New York: Guilford., 1983.

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. สถานการณ์โรคระบาดโควิด -๑๙. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://ddc.moph.go.th/index.php. [๖ พฤษภาคม ๒๕๖๓].

กรมสุขภาพจิต. แบบคัดกรองความวิตกกังวลต่อไวรัสโควิด-๑๙. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://www.dmh.go.th/test/covid๑๙/covid๑๙/. [๑๒ มีนาคม ๒๕๖๓].

กรมสุขภาพจิต. แบบประเมินสุขภาพทั่วไป (Thai GHQ๑๒-๒๘-๓๐-๖๐). [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://www.dmh.go.th/test/covid๑๙/covid๑๙/. [๑๒ มีนาคม ๒๕๖๓].

กรมสุขภาพจิต. การเผชิญกับโควิด-๑๙. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://www.dmh.go.th/news/view.asp?id=๒๒๘๕ [๑๒ ตุลาคม ๒๕๖๓].

ดุจฤดี อภิวงศ์. เทคนิครับมือความเครียด อยู่บ้านก็คลายเครียดได้ ฉบับปรับให้เข้ากับยุคโควิด ๑๙. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://www.praram๙.com/covid๑๙-stresss-syndrome/. [๓๑ มิถุนายน ๒๕๖๓].

ธีรยุทธ รุ่งนิรันดร. การดูแลสุขภาพจิตช่วงการระบาดของโควิด-๑๙. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://www.dmh.go.th/news/view.asp?id=๒๓๖๘. [๓๑ มิถุนายน ๒๕๖๓].