การประยุกต์ใช้หลักสาราณียธรรมเพื่อส่งเสริมความสมานฉันท์ในการบริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี

Main Article Content

พระครูสุวรรณธรรมาภิมณฑ์ (สมชาย เจริญผา)
สาโรช เผือกบัวขาว
พนิต ศรีประดิษฐ์

บทคัดย่อ

          การวิจัยฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ (๑) เพื่อศึกษาระดับการประยุกต์ใช้หลักสาราณียธรรม ๖ เพื่อการส่งเสริมความสมานฉันท์การบริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี (๒) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างหลักสาราณียธรรม ๖ กับการส่งเสริมความสมานฉันท์การบริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี (๓) เพื่อเสนอแนะแนวทางการประยุกต์ใช้หลักสาราณียธรรม ๖ เพื่อการส่งเสริมความสมานฉันท์การบริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี การวิจัยเป็นแบบผสานวิธี ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณและวิจัยเชิงคุณภาพ


          ผลการวิจัย พบว่า ข้อมูลเกี่ยวกับสถานภาพทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า บุคลากรส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จำนวน ๑๔๒ คน มีอายุ ๒๖ – ๓๐ ปี จำนวน ๗๒ คน มีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี จำนวน ๑๑๘ คน มีตำแหน่งเป็นพนักงานจ้าง จำนวน ๘๖ คน มีประสบการณ์ในการทำงาน ๖ - ๑๐  ปี จำนวน ๙๒ คน ตามลำดับ


      ระดับการประยุกต์ใช้หลักสาราณียธรรม ๖ เพื่อการส่งเสริมความสมานฉันท์การบริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี พบว่า หลักสาราณียธรรม ๖ กับการบริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ยระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายประเด็น พบว่า ประเด็นที่ ๖ หลักทิฎฐิสามัญญตา มีค่าเฉลี่ยสูงสุดระดับมาก ๔.๑๐ ส่วนประเด็นที่ ๔ หลักสาธารณโภคี มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดระดับมาก ๔.๐๓ ตามลำดับ ส่วนการส่งเสริมความสมานฉันท์ในการบริหารองค์กรปกครอง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี พบว่า โดยภาพรวม มีค่าเฉลี่ยระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการบริหารแบบมีส่วนร่วมและยอมรับ มีค่าเฉลี่ยสูงสุดอยู่ในระดับมาก ๔.๐๗ ส่วนด้านการบริหารโดยบังคับใช้กฎหมายที่เท่าเทียมกัน มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ในระดับมาก ๔.๐๔ ตามลำดับ


          ความสัมพันธ์ระหว่างหลักสาราณียธรรม ๖ กับการส่งเสริมความสมานฉันท์การบริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี พบว่า การนำหลักสาราณียธรรม ๖ ไปใช้ในการบริหารองค์กรไม่มีความสัมพันธ์กับปัจจัยส่วนบุคคล และการนำหลักสาราณียธรรม ๖ ไปใช้ในการบริหารองค์กรมีความสัมพันธ์กับการส่งเสริมความสมานฉันท์ในการบริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๑ มีค่าความสัมพันธ์เท่ากับ ๐.๘๗๔ เมื่อพิจารณารายด้านพบว่าด้านหลักทิฎฐิสามัญญตา มีค่าความสัมพันธ์สูงสุด ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้


          แนวทางการประยุกต์ใช้หลักสาราณียธรรม ๖ เพื่อการส่งเสริมความสมานฉันท์การบริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี พบว่า หลักเมตตากายกรรม (การแสดงไมตรีจิตที่ดีต่อกัน) หลักเมตตาวจีกรรม (การพูดต่อกันด้วยเมตตาช่วยแจ้งสิ่งที่เป็นประโยชน์) หลักเมตตามโนกรรม (การตั้งจิตปรารถนาดีและคิดทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อกัน) หลักสาธารณโภคี (การแบ่งปันลาภผลและการประสานประโยชน์ที่ได้มาต่อกัน) หลักสีลสามัญญตา (การประพฤติปฏิบัติอยู่ในสุจริตรักษาระเบียบและข้อบังคับ ที่วางไว้) หลักทิฎฐิสามัญญตา (ความเคารพรับฟังความคิดเห็นของกันและกัน) เป็นหลักปฏิบัติในการส่งเสริมความสมานฉันท์การบริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
(สมชาย เจริญผา) พ., เผือกบัวขาว ส., และ ศรีประดิษฐ์ พ. “การประยุกต์ใช้หลักสาราณียธรรมเพื่อส่งเสริมความสมานฉันท์ในการบริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี”. วารสารมหาจุฬาวิชาการ, ปี 9, ฉบับที่ 3, ธันวาคม 2022, น. 222-36, https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JMA/article/view/258154.
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

โกวิทย์ พวงงาม, ศ.ดร,. “การปกครองท้องถิ่นไทย”. กรุงเทพมหานคร : วิญญูชน, ๒๕๕๐.

นภดล สุรนัครินทร์. “การนำหลักธรรมาภิบาลมาปรับใช้ในองค์การบริหารส่วนตำบลตามทัศนะของประชาชนจังหวัดเชียงใหม่”. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัย เชียงใหม่, ๒๕๔๗.

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต). ตอบคำถามของคณะบุคคลในเครือข่ายพระพุทธศาสนา ที่วัดญาณเวศกวัน. เมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙.

มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. “การบริหารท้องถิ่น”. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ. นนทบุรี : มหาวิทยาลัย สุโขทัยธรรมาธิราช, ๒๕๕๗.

ศิริรัตน์ คลังเย็น. “การบริหารงานสู่ความเป็นเลิศตามหลักพุทธธรรมาภิบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๕๗.

สุบัณฑิต จันทร์สว่าง. “การประยุกต์ใช้หลักพุทธธรรมเพื่อการส่งเสริมความสมานฉันท์ในการบริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดนครสวรรค์”. ดุษฎีนิพนธ์. ตามหลักสูตรปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๖๐.

สุบัณฑิต จันทร์สว่าง, ธิติวุฒิ หมั่นมี, สุรินทร์ นิยมาง. “การประยุกต์ใช้หลักพุทธธรรมเพื่อการส่งเสริมความสมานฉันท์ในการบริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดนครสวรรค์”. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์. Vol.8 No.2 April - June ๒๕๖๒.

องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี. “ข้อมูลพื้นฐาน”. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา https://www. suphan. go.th/content-10-182.html. ๗ สิงหาคม ๒๕๖๔.

อนุจิตร ชิณสาร. “การบริหารงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เป็นเลิศด้านความโปร่งใส และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน กรณีศึกษาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดนครราชสีมา”.วารสารชุมชนวิจัย. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ปีที่ ๑๕ ฉบับที่ ๑ มกราคม – มีนาคม ๒๕๖๔.

เอกชัย บุญยาธิษฐาน. “การบริหารความขัดแย้งในองค์กร”. กรุงเทพมหานคร : ปัญญาชน, ๒๕๕๕.

อัครเดช พรหมกัลป์. “การพัฒนารูปแบบการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งตามหลักพุทธธรรมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๕๕.

Ratthaphon Yenjaima. “Conflictin Society: Theory and Solution”. Journal of MCU Social Science. Review, Vol.7 No. 2 (2018).