ศึกษาคติจักรพรรดิราชที่ปรากฏในศิลปกรรมสมัยรัตนโกสินทร์
Main Article Content
บทคัดย่อ
การศึกษาคติจักรพรรดิราชที่ปรากฏในศิลปกรรมสมัยรัตนโกสินทร์นี้ มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ ได้แก่ (๑) เพื่อศึกษาคติเกี่ยวกับจักรพรรดิราชในพระไตรปิฎก และพัฒนาการของคติจักรพรรดิราชในอรรถกถา คัมภีร์พระพุทธศาสนานิกายมหายาน และวรรณกรรมบาลีในชั้นหลัง (๒) เพื่อศึกษาที่มา แนวคิด และการใช้คติจักรพรรดิราชในชนชั้นนำ สมัยรัชกาลที่ ๑-๕ (๓) เพื่อศึกษาคติจักรพรรดิราชที่ปรากฏในศิลปกรรมต่าง ๆ ในสมัยรัชกาลที่ ๑-๕ โดยใช้ระเบียบการวิจัยเชิงเอกสาร
ผลการวิจัยพบว่า คติจักรพรรดิราช เริ่มก่อเค้าตั้งแต่ก่อนที่พระพุทธศาสนาจะบังเกิดขึ้น ชนชั้นปกครองทำพิธีราชสูยะและวาชเปยยะเพื่อให้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิคือผู้ให้จักรหมุนไปด้วยอำนาจ ในพระพุทธศาสนาพระเจ้าจักรพรรดิทรงให้อำนาจแผ่ไปด้วยคุณธรรมของพระองค์ นอกจากนี้พระเจ้าจักรพรรดิยังมีสมบัติพิเศษเป็น รัตนะ ๗ ประการ และคุณสมบัติที่เหนือกว่ามนุษย์ทั่วไปซึ่งเกิดได้ด้วยคุณธรรม ต่อมาในนิกายมหายานมีการจำแนกประเภทของพระเจ้าจักรพรรดิเป็นระดับต่าง ๆ ฝ่ายเถรวาทเองก็มีการจำแนกประเภทของพระเจ้าจักรพรรดิ นับตั้งแต่คัมภีร์ทีปวงศ์ พระมหากษัตริย์และชนชั้นนำที่นับถือพระพุทธศาสนาเถรวาทอย่างลังกาวงศ์ คือ ลังกา สุโขทัย ล้านนา อยุธยา มาจนถึงรัตนโกสินทร์ ต่างนำเอาคติจักรพรรดิราชมาใช้ผ่านทางพระนาม พระราชจริยวัตร เป็นต้น โดยเฉพาะสถาปัตยกรรม และศิลปกรรม เพื่อส่งเสริมให้พระองค์เป็นกษัตริย์ตามอุดมคติของพระพุทธศาสนาเถรวาท ในทางศิลปกรรม ในสมัยรัตนโกสินทร์ตั้งแต่รัชกาลที่ ๑ - ๕ พบคติจักรพรรดิ ทั้งในพระพุทธรูปทรงเครื่องต้นอย่างพระมหาจักรพรรดิ ที่เป็นพระพุทธรูปฉลองพระองค์ โดยอ้างคติความเป็นกษัตริย์ผู้เป็นพระโพธิสัตว์หรือยึดเข้ากับตำนานในมหาชมพูบดีสูตร ในจิตรกรรมฝาผนังพบจิตรกรรมเรื่องมหาชมพูบดีสูตรมากที่สุด จิตรกรรมเรื่องรัตนะ ๗ ประการของพระเจ้าจักรพรรดิ นอกจากนี้ยังพบจิตรกรรมเรื่องมหาสุทัสสนสูตร มันธาตุราชชาดก กาลิงคโพธิชาดก เป็นต้น โดยในสมัยรัชกาลที่ ๓ เป็นสมัยที่พบศิลปกรรมที่เกี่ยวข้องกับคติจักรพรรดิราชมากที่สุด ก่อนจะเริ่มหมดความนิยมลงในรัชกาลที่ ๔ และหมดไปในรัชกาลที่ ๕
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กรมศิลปากร. วรรณกรรมสมัยอยุธยา เล่มที่ ๑. กรุงเทพมหานคร: กรมศิลปากร, ๒๕๔๕.
คณะกรรมการกองตำรา มหามกุฏราชวิทยาลัย. มงฺคลตฺถทีปนี (ปฐโม ภาโค). พิมพ์ครั้งที่ ๑๘. กรุงเทพมหานคร: มหามกุฏราชวิทยาลัย, ๒๕๖๐.
คณะสงฆ์หนเหนือ. ปัญญาสชาดก เล่ม ๑. พิมพ์ครั้งที่ ๓. กรุงเทพมหานคร: อาทรการพิมพ์, ๒๕๕๒.
เจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี (ขำ บุนนาค). พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๑ ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี. กรุงเทพมหานคร: คณะสงฆ์วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และมูลนิธิ “ทุนพระพุทธยอดฟ้า”, ๒๕๕๒.
ชาตรี ประกิตนนทการ. การเมืองในสถาปัตยกรรมสมัยรัชกาลที่ ๑. กรุงเทพมหานคร: มติชน, ๒๕๕๘.
ธนโชติ เกียรติณภัทร. วรรณคดีสุโขทัย. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยรามคำแหง, ๒๕๖๔.
ธนภัทร์ ลิ้มหัสนัยกุล. “ชมพูบดีสูตรในจิตรกรรมฝาผนังช่วงพุทธศตวรรษที่ ๒๔-๒๕”. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต
สาขาวิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๕๘.
นิยะดา เหล่าสุนทร. ท้าวมหาชมพู ต้นตำนานพระพุทธรูปทรงเครื่อง. นนทบุรี: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, ๒๕๕๓.
พระเจ้าบรมวงษ์เธอ กรมพระดำรงราชานุภาพฯ. เรื่องประดิษฐานพระสงฆ์สยามวงษ์ในลังกาทวีป. กรุงเทพมหานคร: กรมแผนที่ทหาร, ๒๔๕๙.
พระญาลิไทย. เตภูมิกถา. นนทบุรี: โรงพิมพ์ศรีปัญญา, ๒๕๖๔.
พระสังฆราชเมธังกร. โลกทีปกสาร. แปลโดย แย้ม ประพัฒน์ทอง. พิมพ์ครั้งที่ ๒. กรุงเทพมหานคร: หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร, ๒๕๔๙.
พระสัทธรรมโฆษเถระ. โลกบัญญัตติ. แปลโดย แย้ม ประพัฒน์ทอง. กรุงเทพมหานคร: หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร, ๒๕๒๘.
พิชญา สุ่มจินดา. ถอดรหัสพระจอมเกล้า. กรุงเทพมหานคร: มติชน, ๒๕๕๗.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. พระไตรปิฎกภาษาบาลี ฉบับมหาจุฬาเตปิฏกํ ๒๕๐๐. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๐๐-๒๕๓๒.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. อรรถกถาภาษาบาลี ฉบับมหาจุฬาอฏฺฐกถา. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๓๒-๒๕๓๔.
ไมเคิล ไรท์. “พระอินทร์”. ศิลปวัฒนธรรม. ปีที่ ๒๕ ฉบับ ๑๐ (สิงหาคม ๒๕๔๗) : ๑๕๕-๑๕๙.
รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล, ธนกฤต ลออสุวรรณ, และธนโชติ เกียรติณภัทร. สมโภชสองศตวรรษ วัดไพชยนต์พลเสพย์ราชวรวิหาร : จิตรกรรมฝาผนัง. นครปฐม: รุ่งศิลป์การพิมพ์ (๑๙๗๗), ๒๕๖๓.
รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล. “จักรพรรดิ: ราชาเหนือราชาในอุดมคติ”. เมืองโบราณ. ปีที่ ๓๘ ฉบับที่ ๑ (มกราคม – มีนาคม ๒๕๕๕) : ๘๓-๙๒.
วรพร ภู่พงศ์พันธุ์. สถาบันกษัตริย์ในกฎมณเทียรบาล. พิมพ์ครั้งที่ ๒. กรุงเทพมหานคร: แสงดาว, ๒๕๖๔.
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ. พระราชพงศาวดาร ฉบับพระราชหัตถเลขา. พิมพ์ครั้งที่ ๑๐. นนทบุรี: ศรีปัญญา, ๒๕๖๔.
สุจิตต์ วงษ์เทศ. บางขุนเทียน ส่วนหนึ่ของแผ่นดินไทยและ กรุงรัตนโกสินทร์. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์คเณศ, ๒๕๓๐.
สุลักษณ์ ศิวรักษ์. ความเข้าใจในเรื่องพระเจ้าอโศกและอโศกาวทาน. พิมพ์ครั้งที่ ๓. กรุงเทพมหานคร: ศูนย์ไทยธิเบต, ๒๕๔๗.
เอนก มากอนันต์. จักรพรรดิราช คติอำนาจเบื้องหลังชนชั้นนำไทย. พิมพ์ครั้งที่ ๒. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มติชน, ๒๕๖๒.
Hermann Oldenberg. The Dipavamsa An Ancient Buddhist Historical Record. London: Williams and Norgate, 1979.
Vasubandhu. Abidharmakosabhasya 2. [translated] by Louis de La Valine Poussin; English translation by Leo M. Pruden. — Berkeley. Calif.: Asian Humanities Press, 1988-1990.