ศึกษาวิเคราะห์พระเสขบุคคลในคัมภีร์พระพุทธศาสนา
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ (๑) เพื่อศึกษาพระเสขบุคคลในคัมภีร์พระพุทธศาสนา (๒) เพื่อศึกษาวิถีการปฏิบัติของพระเสขบุคคล (๓) เพื่อวิเคราะห์การละกิเลสของพระเสขบุคคลในคัมภีร์พระพุทธศาสนา เป็นการวิจัยเชิงเอกสาร โดยศึกษาจากคัมภีร์พระไตรปิฎกและอรรถกถาตลอดจนคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาที่เกี่ยวข้อง
ผลการวิจัยพบว่า ความหมายของพระเสขะ คือ เป็นพระอนุพุทธบุคคล หรือพระอริยบุคคล ผู้ยังศึกษาไตรสิกขา ประพฤติพรหมจรรย์ และปฏิบัติตามหลักโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการ พระเสขบุคคล ได้แก่ พระเสขบุคคลผู้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติมรรค พระเสขบุคคลผู้ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล พระเสขบุคคลผู้ตั้งอยู่ในสกทาคามิมรรค พระเสขบุคคลผู้ตั้งอยู่ในสกทาคามิผล พระเสขบุคคลผู้ตั้งอยู่ในอนาคามิมรรค พระเสขบุคคลผู้ตั้งอยู่ในอนาคามิผล และพระเสขบุคคลผู้ตั้งอยู่ในอรหัตตมรรค องค์แห่งการบรรลุธรรม คือ การคบหาสัตบุรุษ การฟังพระสัทธรรม การมนสิการโดยแยบคาย และการปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม พระเสขบุคคลมีคุณสมบัติ ดังนี้ ศรัทธาในพระพุทธเจ้า เชื่อมั่นในพระธรรม เลื่อมใสในพระสงฆ์ และมีศีลอันเป็นที่รัก พระโสดาบันเกิดไม่เกิน ๗ ชาติ พระสกทาคามีเกิดหนึ่งชาติ พระอนาคามีไม่กลับมาเกิด พระเสขบุคคลผู้บรรลุอรหัตตมรรคแล้วจะเป็นผู้พ้นจากความทุกข์เข้าถึงพระนิพพาน วิถีการปฏิบัติของพระเสขบุคคล ได้แก่ มีศีล สำรวมอินทรีย์ รู้ประมาณการบริโภค มีความเพียร ทรงพระสัทธรรมและได้ฌาน ธรรมที่เป็นเหตุแห่งความเสื่อมจากการบรรลุมรรคผล คือ ไม่ชอบการงาน การพูดคุย การนอนหลับ การคลุกคลีด้วยหมู่คณะ ธรรมที่เป็นเหตุแห่งความเจริญต่อการบรรลุมรรคผล คุ้มครองทวารในอินทรีย์รู้ประมาณการบริโภค และกิจที่ควรทำ หลักธรรมที่เป็นวิถีการบรรลุเป็นบรรลุพระเสขะ สติปัฏฐาน ๔ และโพชฌงค์ ๗ การทำบุญในพระเสขบุคคล ได้แก่ ผู้ควรคำนับ ควรต้อนรับ ควรทักษิณา ควรกราบไหว้ และเป็นนาบุญในโลก วิคราะห์การละกิเลสของพระเสขบุคคล พระเสขบุคคลผู้เป็นโสดาบันละกิเลส ได้แก่ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา และสีลัพพตปรามาส พระเสขบุคคลผู้เป็นสกทาคามีละกิเลส ได้แก่ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส บรรเทาอกุศลจิตทั้ง 3 ลงได้ พระเสขบุคคลผู้เป็นอนาคามีบุคคลละกิเลส ได้แก่ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส กามราคะ และโทสะ พระเสขบุคคลผู้บรรลุอรหัตตมรรคละกิเลสดังนี้ โลภะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ วิจิกิจฉา ถีนะ อุทธัจจะ อหิริกะ และอโนตตัปปะ
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
จุทาภัค หริรักษ์ธำรง. “รูปแบบการบรรลุธรรมในพระพุทธศาสนาเถรวาท”. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๖๑.
พระธรรมปิฎก (ป. อ. ปยุตฺโต). พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๔๐.
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต). พุทธธรรม ฉบับปรับขยาย. พิมพ์ครั้งที่ ๓๕. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ผลิธัมม์, ๒๕๑๑.
พระมหาคำสิงห์ สีหนนฺโท (กองเกิด). “การศึกษาวิเคราะห์เรื่องอริยปฏิปทาในคัมภีร์พระพุทธศาสนา”. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๖๓.
แม่ชีพิมพ์วรา ทิพยบุลสิทธิ์. “การศึกษาวิชชาและจรณะในเสขปฏิปทาสูตร”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๕๕.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. พระไตรปิฎกภาษาบาลี ฉบับมหาจุฬาเตปิฏกํ ๒๕๐๐. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๓๕.
________. พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๓๙.
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต). พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์. พิมพ์ครั้งที่ ๓๓. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ผลิธัมม์, ๒๕๖๑.
สมบูรณ์ ตาสนธิ. “กระบวนการและขั้นตอนบรรลุอริยสัจ ๔ ของพระอริยบุคคล”. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๖๐.
สานุ มหัทธนาดุลย์. “การศึกษาวิเคราะห์สังโยชน์ในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๕๓.