แนวทางการพัฒนาบทบาทผู้บริหารในการพัฒนาแหล่งเรียนรู้วิถีใหม่ ของสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (๑) เพื่อศึกษาบทบาทที่เป็นจริงและบทบาทที่คาดหวังต่อผู้บริหารในการพัฒนาแหล่งเรียนรู้วิถีใหม่ ของสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา (๒) เพื่อนำเสนอ
แนวทางการพัฒนาบทบาทผู้บริหารในการพัฒนาแหล่งเรียนรู้วิถีใหม่ ของสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา วิธีดำเนินการวิจัยมี ๒ ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ ๑ ศึกษาบทบาทที่เป็นจริงและบทบาท
ที่คาดหวังต่อผู้บริหารในการพัฒนาแหล่งเรียนรู้วิถีใหม่ กลุ่มตัวอย่าง คือ ครูของสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา จำนวน ๑๓๓ คน ได้มาโดยการสุ่มแบบชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้วิจัย คือแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า ๕ ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และขั้นตอนที่ ๒ นำเสนอแนวทางการพัฒนาบทบาทผู้บริหารในการพัฒนาแหล่งเรียนรู้วิถีใหม่ ผู้ให้ข้อมูลหลัก คือ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา ผู้อำนวยการสถานศึกษา และผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน ๕ คน ซึ่งได้มาด้วยวิธีการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์ และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า (๑) บทบาทที่เป็นจริงของผู้บริหารในการพัฒนาแหล่งเรียนรู้วิถีใหม่ของสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนคร พระนครศรีอยุธยา โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนบทบาทที่ครูคาดหวังต่อผู้บริหารในการพัฒนาแหล่งเรียนรู้วิถีใหม่ของสถานศึกษาสังกัดเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (๒) แนวทางการพัฒนาบทบาทผู้บริหารในการพัฒนาแหล่งเรียนรู้วิถีใหม่
ของสถานศึกษา นำเสนอแนวทางการพัฒนาเป็น ๕ ด้าน จำนวน ๒๘ รายการปฏิบัติ ดังนี้ ด้านที่ ๑ การเป็นผู้ริเริ่มมี ๖ รายการปฏิบัติ ด้านที่ ๒ การเป็นนักประชาสัมพันธ์ และสัมพันธ์ชุมชนมี ๖ รายการปฏิบัติ ด้านที่ ๓ การเป็นนักแก้ปัญหามี ๕ รายการปฏิบัติ ด้านที่ ๔ การเป็นผู้ประสานงานมี ๕ รายการปฏิบัติ และด้านที่ ๕ การเป็นผู้ประเมิน กำกับ ดูแลมี ๖ รายการปฏิบัติ
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กันนิกา นาขันดี. “การศึกษาบทบาทของภาคีเครือข่ายที่มีส่วนร่วมในการบริหารทรัพยากรทางการศึกษา ของโรงเรียนเกาะช้างวิทยาคม”. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาวิชานโยบายและการจัดการสาธารณะ : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, ๒๕๖๕.
ชุติมาพร เชาวน์ไว. “บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการบริหารแหล่งเรียนรู้ภายในสถานศึกษา สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดปทุมธานี”. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาวิชาการบริหารการศึกษา : มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์, ๒๕๖๒.
ณัฐฉณ ฟูเต็มวงศ์, สุเมธ งามกนก และ สมพงษ์ ปั้นหุ่น. “การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อเสริมสร้างภาวะผู้นำด้านเทคโนโลยีของผู้บริหาร”. วารสารการศึกษาและการพัฒนาสังคม. ปีที่ ๑๕ ฉบับที่ ๒ (มกราคม - มิถุนายน ๒๕๖๓) : ๑๘-๒๖.
พระครูปลัดวีระ อคฺคจิตโตฺ (มงคล). “รูปแบบการบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ชุมชนแบบมีส่วนร่วมโดยพลังบวร (บ้าน วัด โรงเรียน)”. ดุษฎีนิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต. สาขาวิชาพุทธบริหารการศึกษา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๖๕.
พงษ์พันธ์ อัศพันธ์และวานิช ประเสริฐพร. “ทักษะการบริหารในศตวรรษที่ ๒๑ ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต ๔”. วารสาร มจร อุบลปริทรรศน์. ปีที่ ๘ ฉบับที่ ๒ (พฤษภาคม - สิงหาคม ๒๕๖๓) : ๑๖๕๑-๑๖๖๔.
มัธนา กามะ, จิณณวัตร ปะโคทัง และภาณุพงศ์ บุญรมย์. “การศึกษาภาวะผูนำเชิงเทคโนโลยีของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาศรีสะเกษ ยโสธร”. วารสาร มจร อุบลปริทรรศน์. ปีที่ ๗ ฉบับที่ ๑ (มกราคม-เมษายน ๒๕๖๕) : ๕๓๓-๕๔๖.
วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล. New normal ทางการเรียนรู้. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, ๒๕๖๓.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙. พริกหวานกราฟิค, ๒๕๖๐.
Krejcie, R.V. & Morgan, D.W. "Determining Sample Size for Research Activities". in Education and Psychological Measurement. New York : The Free Press, 1986.
ยืน ภู่วรวรรณ. “ชีวิตวิถีใหม่และความฉลาดทางดิจิทัล”. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://learningdq-dc.ku.ac.th [๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๕].
เอกชัย กี่สุขพันธ์. “การบริหารสถานศึกษายุคดิจิทัล (School Management in Digital Era)” . [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/52232/-edu-teaartedu-teaart-teaartdir [๑ ธันวาคม ๒๕๖๕].