การพัฒนาความสามารถในการคิดที่เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ของ เด็กชั้นอนุบาลปีที่ ๓ โดยการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ตามแนวคิดมอนเตสเซอรี่ -
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เปรียบเทียบความสามารถในการคิดที่เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ก่อนและหลังการจัดประสบการณ์ของเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 3 ตามแนวคิดมอนเตสเซอรี่ (2) ศึกษาพัฒนาการความสามารถในการคิดที่เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ของเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 3 ด้านการจัดประสบการณ์ตามแนวคิดมอนเตสเซอรี่ และ (3) ศึกษาความพึงพอใจของเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 3 ในการรับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามแนวคิดมอนเตสเซอรี่ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 3/2 โรงเรียนวัดบางหลวง อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 29 คน ที่ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster random sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ตามแนวคิดมอนเตสเซอรี่ ของเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 3 แบบทดสอบความสามารถการคิดที่เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ แบบประเมินความสามารถในการคิดที่เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ และแบบสอบถามความพึงพอใจในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ตามแนวคิดมอนเตสเซอรี่ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (M) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าที ( t- test) แบบ dependent
ผลการวิจัย พบว่า (1) เด็กชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามแนวคิดมอนเตสเซอรี่ มีความสามารถในการคิดที่เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้หลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ สูงกว่าก่อนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (2) เด็กชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามแนวคิดมอนเตสเซอรี่มีพัฒนาการความสามารถในการคิดที่เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้หลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ตามแนวคิดมอนเตสเซอรี่ (3) เด็กชั้นอนุบาลปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามแนวคิดมอนเตสเซอรี่ มีความพึงพอใจในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ตามแนวคิดมอนเตสเซอรี่โดยเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก
คำสำคัญ : มอนเตสเซอรี่ ; ความสามารถในการคิดที่เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
บรรณานุกรม
กระทรวงศึกษาธิการ. หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐. กรุงเทพฯ:๒๕๖๐
กุลยา ตันติผลาชีวะ. รูปแบบการการสอนปฐมวัยศึกษา. กรุงเทพฯ: เบรน –เบส บุ๊ค, ๒๕๕๑.
พัทธนิตย์ คุ้มครอง. การพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัยโดยใช้การจัดประสบการณ์
ตามรูปแบบมอนเตสซอรี่. วิทยานิพนธ์สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. (กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัย
ธุรกิจบัณฑิต,๒๕๖๐).
มุนินทร์ นวลเนตร และคณะ. การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ของเด็กปฐมวัยอายุ ๕ - ๖ ปี ด้วยการ
จัดประสบการณ์แบบมอนเตสซอรี. วารสาร มจร อุบลปริทรรศน์. ปีที่ ๖ ฉบับที่ ๒
พฤษภาคม-สิงหาคม ๒๕๖๔ .๒๒๙-๒๙๙.
เยาวพา เตชะคุปต์. กิจกรรมสำหรับเด็กปฐมวัย. กรุงเทพ ฯ : เอพี กราฟฟิกส์ ดีไซน์, ๒๕๔๒.
โรงเรียนวัดบางหลวง. รายงานการประชุมพัฒนาการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ของคณะครูปฐมวัยโรงเรียน
วัดบางหลวง. นครปฐม: โรงเรียนวัดบางหลวง, ๒๕๖๔.
สิริมา ภิญโญอนันตพงษ์. การศึกษาปฐมวัย. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต, ๒๕๕๐.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐– ๒๕๗๙ กรุงเทพฯ:
พริกหวานกราฟฟิคจำกัด, ๒๕๖๐.
________. แนวทางการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่หลากหลายในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยตามบริบทไทย
: แนวทางการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบมอนเตสซอรี่ (Montessori Approach).
นนทบุรี: บริษัท ๒๑ เซ็นจูรี่ จำกัด,๒๕๖๕.
สำนักบริหารงานการศึกษาภาคบังคับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ.
คู่มือการจัดประสบการณ์ระดับปฐมวัยตามแนวคิดมอนเตสซอรี ในบริบทสพฐ. เล่ม ๑ รู้และเข้าใจมอนเตสซอรี : ทฤษฎีสู่การปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย
จำกัด, ๒๕๕๘.
อรุณี หรดาล. หน่วยที่ ๒ แนวการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัย ใน ประมวลสาระชุดวิชา
การจัดประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัย. หน่วยที่ ๑-๖. (พิมพ์ครั้งที่ ๑).นนทบุรี: สาขาวิชา
ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, ๒๕๔๘.
Carey, K. What Montessori Says. Montessori Life, Spring, 2012. pp. 5-6.
Kayili, G., & Ari, R. The Determination of Effect of Montesssori Method On preschool
Children’s Primary School Readiness. Journal of Theory and Practise in Education,
Educational Sciences: Theory & Practice, 11, 2011, pp 2091-2109.
Mckenzie, K. G. and Zascavage, Z. V. Montessori Instruction: A Model for Inclusion in
Early Childhood Classrooms. Montessori Life, Spring, 2012, pp. 32-38.
