รูปแบบการรักษาอุโบสถศีลของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวไต อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาแนวคิดหลักการรักษาอุโบสถศีลในพระพุทธศาสนาและของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวไต อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย 2) เพื่อวิเคราะห์การรักษาอุโบสถศีลของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวไต อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และ 3) เพื่อพัฒนารูปแบบการรักษาอุโบสถศีลของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวไต อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้การวิจัยเอกสาร การสัมภาษณ์เชิงลึก การจัดเวทีสนทนากลุ่ม กับกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ) และการสังเกตแบบมีส่วนร่วมพบว่า
ตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 1 หลักการรักษาอุโบสถศีลในพระพุทธศาสนา พบว่า ปรากฏในพระวินัยปิฎก มหาวรรค อุโบสถขันธกะ พบว่า มีจุดเริ่มต้นจากการที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ภิกษุสงฆ์ประชุมแสดงธรรมในวันสำคัญทางจันทรคติ คือ วันขึ้นและแรม 8 ค่ำ, 14 ค่ำ และ 15 ค่ำ ของทุกปักษ์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเนื่องจากในสมัยนั้น พวกปริพาชกและนักบวชศาสนาอื่นได้มีการประชุมกล่าวธรรมในวันดังกล่าว ทำให้ประชาชนเข้าไปฟังและเกิดความเลื่อมใส พระเจ้าพิมพิสารทรงเห็นว่าหากพระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้ามีการประชุมแสดงธรรมเช่นนี้บ้าง ก็จะเป็นประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา
ตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 2 วิเคราะห์การรักษาอุโบสถศีลของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวไต พบว่า ชาวไทใหญ่นับถือศาสนาพุทธร่วมกับการนับถือเทพและเจ้าเมือง โดยมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด ในชุมชนจึงมีทั้งวัดเป็นศาสนสถานและหอเจ้าเมืองและใจบ้าน อีกทั้งชาวไทใหญ่มีประเพณี 12 เดือน ที่ในแต่ละเดือนจะมีประเพณีที่เกี่ยวข้องกับวัดทั้งสิ้น จึงกล่าวได้ว่าชาวไทใหญ่เป็นผู้นับถือศรัทธาศาสนาพุทธอย่างแนบแน่น นอกจากนั้นชาวไทใหญ่ยังมีความเชื่อในเรื่องของโลกหน้าอีกด้วย ชาวไทใหญ่จะนิยมการทำบุญ ทำทาน และให้ความสำคัญกับประเพณีทางศาสนาอย่างมาก เชื่อเมื่อตายไปแล้วจะได้อยู่บนสวรรค์
ตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 3 พัฒนารูปแบบการรักษาอุโบสถศีลของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวไต พบว่า การรักษาศีลกลุ่มชาติพันธุ์ชาวไตจะปฏิบัติในช่วงเข้าพรรษาจะมีการรักษาศีลแปด เรียกว่า "ปกติอุโบสถ" เป็นเวลา 1 วัน ในช่วงเวลา 1 วัน กับ 1 คืน โดยมากรักษากันในวันขึ้นหรือแรม 8 ค่ำ 15 ค่ำ หรือแรม 14 ค่ำ ในเดือนคี่ คือ รักษากันในวันพระนั่นเอง ความเหมือนและความแตกต่างระหว่างอุโบสถศีลกับศีล 8 คือ (1) อุโบสถศีล กับ ศีล 8 มีข้องดเว้น 8 ข้อเหมือนกัน (2) คำอาราธนา (ขอศีล) แตกต่างกัน (3) อุโบสถศีล มีวันพระเป็นแดนเกิด สมาทานรักษาได้เฉพาะวันพระเท่านั้น ส่วนศีล 8 สมาทานรักษาได้ทุกวัน (4) อุโบสถศีล มีอายุ 24 ชั่วโมง (วันหนึ่งคืนหนึ่ง) ส่วนศีล 8 ไม่มีกำหนดอายุในการรักษา กลุ่มชาติพันธุ์ชาวไต ผู้ที่รักษาอุโบสถศีลนี้ จะถูกเรียกชื่อว่า พ่อศีล แม่
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
Kanlawiriya, S., (2024). Silabarami in Theravada Buddhist Philosophy. Institute of Sufficiency Journal. 1(9), 40-53.
Mahachulalongkornrajavidyalaya University. (1992).Pali Tripitaka Mahachula Thepitakam edition, 1957. Bangkok:
Mahachulalongkornrajavidyalaya Printing House.
Phra Abhakorn Kalyanadhammo, (2021). The Observance of Uposatha Sila by Young Buddhist Lay Volunteers of Sri Indraraksa Jai at Wat
Prachakom Wanaram, Sri Somdet District, Roi Et Province, According to Buddhist Ethics. Journal of Buddhist Philosophy and
Development. 5(2), 148-160.
Phra Chanameth Tejadhara (Khammungkhun), and Thungthongmadan, S., (2022). Sila in Visuddhimagga as a Reflection of the Monastic
Way of Life in Buddhism. Journal of MCU Buriram, 7(1), 335-349.
Phra Danai Chayamethee (Chaiyami), (2023). The Observance of Uposatha Sila in Buddhism. Journal of Buddhist Studies. 2(2), 1-15.
Phra Sitthichai Thitasophano. (2022). A Study of the Tradition of Setting Up Phra Wetsandon Dhamma among the Tai Khoen People in
Chiang Rai Province. (Master of Arts in Buddhism). Graduate School. Mahachulalongkornrajavidyalaya University.
Phra Surachet Itthithecho (Chaira) and colleagues. (2021). The Application of the Five Precepts in Developing the Daily Quality of Life of
People in Ban Sompoi Khai Mueang Saen, Na Dan Subdistrict, Suwannakhuha District, Nong Bua Lamphu Province. Panyapanidhana
Journal, 6(1), 215-228.
Phrakhrupalad Jakrapol Siritharo. (2024). Buddhism and Mind Development. Integrated Social Science Journal, 4(10), 93-102.