บทบาทของผู้บริหารในการส่งเสริมการวิจัยในชั้นเรียนของวิทยาลัยนาฏศิลป์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม

ผู้แต่ง

  • จารี อ้นนาค สาขาวิชาการบริหารการศึกษาและผู้นำทางการศึกษา มหาวิทยาลัยสยาม

คำสำคัญ:

บทบาทของผู้บริหารการส่งเสริมการวิจัย, ในชั้นเรียนวิทยาลัยนาฏศิลป์, สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์, กระทรวงวัฒนธรรม

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อบทบาทของผู้บริหารในการส่งเสริมการวิจัยในชั้นเรียนของวิทยาลัยนาฏศิลป์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์กระทรวงวัฒนธรรม กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้บริหารและครูของวิทยาลัยนาฏศิลป์ในปีการศึกษา 2557 จำนวน 204 คน จำแนกเป็นผู้บริหารจำนวน 96 คนและครูจำนวน 108 คน ได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่มและกำหนดขนาดตัวอย่างโดยใช้ตารางขนาดกลุ่มตัวอย่างสำเร็จรูปของ Krejcie and Morgan (1970) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย (\inline \bar{X} ) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ค่าt-test

ผลการวิจัยพบว่า

1. บทบาทของผู้บริหารในการส่งเสริมการวิจัยในชั้นเรียนของวิทยาลัยนาฏศิลป์สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม ในภาพรวม ผู้บริหารมีบทบาทปฏิบัติการส่งเสริมการวิจัยในชั้นเรียนอยู่ในระดับมากเรียงลำดับตามผลการวิจัย ได้แก่ (1) การส่งเสริมให้เกิดความสำเร็จของงานวิจัย (2) การมีความรับผิดชอบต่อครูผู้ทำวิจัย (3) การให้ความรู้ความสำคัญกับการทำงานวิจัยของครู (4) การให้ความก้าวหน้ากับครูผู้ทำวิจัย (5) การยอมรับนับถือครูผู้ทำวิจัย นอกจากนี้ผู้บริหารและครูยังมีความต้องการส่งเสริมการวิจัยในชั้นเรียนอยู่ในระดับมากเรียงลำดับตามผลการวิจัย ได้แก่ (1) การมีความรับผิดชอบต่อครูผู้ทำวิจัย (2) การให้ความก้าวหน้ากับครูผู้ทำวิจัย (3) การส่งเสริมให้เกิดความสำเร็จของงานวิจัย (4) การให้ความรู้ความสำคัญกับการทำงานวิจัยของครู (5) การยอมรับนับถือครูผู้ทำวิจัย

2. ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารและครูตามบทบาทปฏิบัติการส่งเสริมการวิจัยในชั้นเรียนสอดคล้องกับสมมติฐาน 4 ด้านยกเว้นด้านการส่งเสริมให้เกิดความสำเร็จของงานวิจัยที่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และความคิดเห็นตามความต้องการส่งเสริมการวิจัยในชั้นเรียนสอดคล้องกับสมมติฐาน 4 ด้าน  ยกเว้นด้านการมีความรับผิดชอบต่อครูผู้ทำวิจัย ที่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2022-08-31