ความคิดรวบยอดเกี่ยวกับการคูณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ในชั้นเรียนที่ใช้วิธีการศึกษาชั้นเรียน (Lesson study) และวิธีการแบบเปิด (Open Approach)
คำสำคัญ:
ความคิดรวบยอด, วิธีการแบบเปิดบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์เรื่องการคูณของนักเรียนที่เรียนในชั้นเรียนที่ใช้การศึกษาชั้นเรียน (Lesson Study) และ วิธีการแบบเปิด (Open Approach) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยใช้วิธีการวิจัยแบบผสม (Mixed Method) กลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จำนวน 38 คน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 เลือกมาโดยวิธีเจาะจง เครื่องมือวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องการคูณ จำนวน 6 แผน 2) แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน 3) เครื่องบันทึกวีดิทัศน์ และ 4) กล้องบันทึกภาพนิ่ง 5) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการบันทึกวีดิทัศน์ชั้นเรียน และการบันทึกภาพนิ่ง วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ โดยการวิเคราะห์คะแนนเฉลี่ย (Mean) และผลการวัดความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์ ผลการวิจัยพบว่า ความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์เรื่องการคูณของนักเรียนที่ใช้การศึกษาชั้นเรียน (Lesson Study) และ วิธีการแบบเปิด (Open Approach) พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนในชั้นเรียนที่ใช้การศึกษาชั้นเรียน (Lesson Study) และ วิธีการแบบเปิด (Open Approach) นักเรียนผ่านเกณฑ์ 60% คิดเป็นร้อยละ 86.84 นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ย 14.34 คะแนน (S.D. = 3.54 ) ความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์มีความสำคัญต่อการเรียนรู้ทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนอย่างมาก เริ่มตั้งแต่ความคิดรวบยอดพื้นฐานของนักเรียนที่จะต้องทำความเข้าใจปัญหาในการจำแนกปัญหาปลายเปิดว่าเกี่ยวข้องกับเนื้อหาทางคณิตศาสตร์เรื่องใด การเชื่อมโยงความคิดรวบยอดพื้นฐานมาประยุกต์ใช้ในการวางแผนแก้ปัญหาได้อย่างถูกวิธีและการพัฒนาความคิดรวบยอดทางคณิตศาสตร์ให้ถูกต้อง
เอกสารอ้างอิง
นภาพร วนเนตรสุดาทิพย์. (2564). การสร้างชุมชนแห่งวิชาชีพ (PLC) จากการศึกษาชั้นเรียน. วารสารวิชาการและวิจัยมหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, 11(3), 347-358.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2560). คู่มือการจัดการเรียนรู้กล่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์. กรุงเทพฯ: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี.
อัมพร ม้าคนอง. (2557). การพัฒนาชุดกิจกรรมทางคณิตศาสตร์ตามแนวคิด บริบทที่ใช้กิจกรรมเป็นฐานร่วมกับ การสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการเชื่อมโยงทางคณิตศาสตร์และเจตคติต่อวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. An Online Journal of Education http://edu.chula.ac.th/ojed.Vol 12,No 3,2017,pp 442-458.
Creswell, J.W. (2013). Research Design: Qualitative, Quantitative, and Mixed Methods Approaches (4thed). London: SAGE Publications, Inc.
Inprasitha, M. (2011). One Feature of Adaptive Lesson Study in Thailand: Designing a Learning Unit. Journal of Science and Mathematics Education in Southeast Asia, 34(1), 47-66.
Lewis. C., (2002). Lesson Study : A handbook of teacher-led Instructional change. Research for better school, inc.
Lewis, A. (2006). The effects of information sharing, organizational capability and relationship characteristics on outsourcing performance in the supply chain: an empirical study [Doctoral dissertation, Ohio State University]. OhioLINK Electronic Theses and Dissertations Center. http://rave.ohiolink.edu/etdc/view?acc_num=osu1154620550
Nohda, N. (2000). A Study of “Open-Approach” Method in School Mathematics Teaching. Makuhuri: University of Tsukuba.
Shimizu, S. (2006). Professional Development through Lesson Study: A Japan Case. Paper Presented at APEC International Symposium on Innovation and Good Practice for teaching and Learning Mathematics through Lesson Study, Khon Kaen Session.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารวิชาการและวิจัย มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.