รูปแบบการเรียนรู้ของนักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ

Main Article Content

อุมากร สุวนันทวงศ์
พัดชา ไชยสำแดง
ณฤดี ชลชาติบดี

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบการเรียนรู้และความสัมพันธระหวางระดับชั้นปกับรูปแบบการเรียนรู้แบบวาร์ค ของนักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ โดยเป็นการวิจัยเชิงสำรวจ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 - 3 ภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จำนวนทั้งสิ้น 107 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบทดสอบรูปแบบการเรียนรู้ของวาร์ค วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติบรรยายและ   สถิติไคสแควร์ ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีรูปแบบการเรียนรู้แบบเดี่ยว ร้อยละ 79.44 ซึ่งในรูปแบบการเรียนรู้แบบเดี่ยว ผู้เรียนส่วนใหญ่เรียนรู้ได้ดีผ่านการเคลื่อนไหว หรือการลงมือปฏิบัติ ร้อยละ 40.00 รองลงมาได้แก่ ผ่านการฟังร้อยละ 29.41 การเรียนรู้ผ่านการอ่านหรือเขียน ร้อยละ 23.53 และ ผ่านการมอง ร้อยละ 7.06 ส่วนระดับชั้นปีมีความสัมพันธ์กับรูปแบบการเรียนรู้อย่างไม่มีนัยสำคัญ (p>0.05)
ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีรูปแบบการเรียนรู้แบบเดี่ยวมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 79.44 รองลงมาเป็นเรียนรู้แบบสองลักษณะ คิดเป็นร้อยละ 15.89 เรียนรู้แบบสามลักษณะ คิดเป็นร้อยละ 2.80 และ เรียนรู้แบบผสมผสาน คิดเป็นร้อยละ 1.87 ตามลำดับ กลุ่มตัวอย่างที่มีรูปแบบการเรียนรู้แบบเดี่ยว ส่วนใหญ่มีรูปแบบการเรียนรู้แบบการเคลื่อนไหว (Kinesthetic: K) มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 40.00 รองลงมาเป็นการฟัง (Aural/Auditory: A) คิดเป็นร้อยละ 29.41 การอ่านหรือเขียน (Read/Write: R) คิดเป็นร้อยละ 29.41 และการมอง (Visual: V) คิดเป็นร้อยละ 7.06 ตามลำดับ

Article Details

บท
บทความวิจัย

References

จงกลนี ตุ้ยเจริญ, ปรางทิพย์ ทาเสนาะ เอลเทอร์, อําไพ หมั่นสระเกษ, อิสราวรรณ สนธิภูมาส, ทรงสุดา หมื่นไธสง. (2563). รูปแบบการเรียนรู้แบบวาร์คของนักศึกษาพยาบาลศาสตรบัณฑิตในวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครราชสีมา.วารสารวิชาการสาธารณสุข, 29(6), 1073-1085.

ธนาวุฒิ นิลมณี, ดวงกมล โพธิ์นาค และ กฤช สินธนะกุล. (2559). การจําแนกรูปแบบการเรียนรู้ตามรูปแบบ VARK ของนักศึกษาสาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ.

นฤมล จันทร์สุข, ชวนนท์ จันทร์สุข และ นิจวรรณ วีรวัฒโนดม. (2560). การศึกษารูปแบบการเรียนรู้ตามรูปแบบ VARK ของนักศึกษาพยาบาลชั้นปี ที่ 1 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ชัยนาท. การประชุมวิชาการระดับชาติ นเรศวรวิจัยครั้งที่ 13: วิจัย นวัตกรรม ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม; 20-21 กรกฎาคม 2060, มหาวิทยาลัยนเรศวร, พิษณุโลก. พิษณุโลก, ประเทศไทย.

ศักดิ์คเรศ ประกอบผล. (2563). การออกแบบและพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนโดยใช้แอดดี้โมเดลและแนวคิดของกาเย่. ครุศาสตร์สาร, 14(1), 17-30.

ศุภวดี แถวเพีย, พรรณิภา ทองณรงค์, เสาวลักษณ์ วิชัย. (2560). รูปแบบการเรียนรู้ของนักศึกษาพยาบาลศาสตรบัณฑิตวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ขอนแก่น. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 35(2), 227-35.

สิรารักษ์ ศรีมาลา และ รุ่งทิวา หวังเรืองสถิตย์. (2558). ผลสัมฤทธิ์และความพึงพอใจของนักศึกษาพยาบาลต่อการจัดการเรียนการสอนการพยาบาลทารกแรกเกิดแบบ VARK learning style. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 24(4), 754-759.

สุรีพร ปวุฒิภัทรพงศ์. (2566, 20 พฤศจิกายน). ฉันจะเรียนได้ดีที่สุดอย่างไร. http://vark-learn.com/wp-content/uploads/2014/08/The-VARK-Questionnaire-Thai.pdf

อรนุช พันโท และ มนต์ชัย เทียนทอง. (2560). การสังเคราะห์โมเดลการเรียนรู้ด้วยอีเลิร์นนิ่งแบบปรับเหมาะที่มีระบบพี่เลี้ยงอิเล็กทรอนิกส์โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้ VARK ที่วิเคราะห์ด้วยวิธีเหมืองข้อมูล.กศ.ด., สารสนเทศ บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ.

Angeline JPG, R. C. (2018). Learning Style(S) Preferences and the Perception of the Learner’s Learning Style with Academic Performance of Nursing Students in a Private University. International Journal of Nursing Education.

Fleming, N., & Baume, D. (2006). Learning Styles Again: VARKing up the Right Tree!. Educational Developments, 7(4), 4.

Purba IE, S. J. (2015). Learning preferences of nursing and midwifery students. Journal of Science and Technology Ubon Ratchathani University, 7-12.

Visudtibhan PJ, D. P. (2015). Learning Style Preferences of Nursing Students at Ramathibodi School of Nursing, Faculty of Medicine, Ramathibodi Hospital, Mahidol University. Nursing Journal of the Ministry of Public Health, 70-82.

Zhu H, Z. H. (2018). The Preferred Learning Styles Utilizing VARK among Nursing Students With Bachelor Degrees and Associate Degrees in China. Acta Paul Enferm, 162-3.