ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการเลิกบุหรี่สำเร็จ ของผู้มารับบริการคลินิกเลิกบุหรี
Main Article Content
บทคัดย่อ
อัตราการเลิกบุหรี่สำเร็จที่คลินิกเลิกบุหรี่มีเพียงร้อยละ ๒๐ จึงจำเป็นต้องหาปัจจัยส่งเสริมให้ผู้ป่วยเลิกบุหรี่ได้มากขึ้น โดยการศึกษาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการเลิกบุหรี่สำเร็จของผู้รับบริการคลินิกเลิกบุหรี่ กลุ่มตัวอย่างได้รับการสัมภาษณ์ จำนวน ๒๒๖ คน ที่คลินิกเลิกบุหรี่ครบใน ๗ ประเด็น ได้แก่ ปัจจัยด้านกายภาพ ปัจจัยด้านพฤติกรรม ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ปัจจัยด้านจิตใจปัจจัยด้านการรู้คิด ปัจจัยด้านอุปสรรคต่อการเข้าถึงบริการเลิกบุหรี่ และปัจจัยด้านบริบททางสังคมโดยวิเคราะห์ข้อมูลเปรียบเทียบปัจจัยต่าง ๆ ระหว่างผู้เลิกบุหรี่สำเร็จและไม่สำเร็จ
ผลการศึกษา พบว่า ปัจจัยส่งเสริมการเลิกบุหรี่สำเร็จ ได้แก่ การนับถือศาสนาอิสลาม การให้ความสำคัญต่อการเลิกบุหรี่ ความวิตกกังวล ความเครียด การสังสรรค์กับเพื่อนที่สูบบุหรี่ประมาณสัปดาห์ละครั้ง หรือตามเทศกาล และปัญหาชีวิตเกี่ยวกับสุขภาพ ปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการเลิกบุหรี่สำเร็จที่สำคัญได้แก่ จำนวนที่สูบบุหรี่มากกว่าวันละ ๑๐ มวน โดยเฉพาะเมื่อมากกว่า ๒๐ มวนขึ้นไป จะลดโอกาสการเลิกบุหรี่สำเร็จเหลือเพียงร้อยละ ๑๐ ดังนั้น คลินิกเลิกบุหรี่สามารถเพิ่มโอกาสเลิกบุหรี่สำเร็จโดยส่งเสริมการหนุนใจเชิงศาสนา ช่วยลดความวิตกกังวลและความเครียด ปัญหาสุขภาพ ลดจำนวนบุหรี่ที่สูบต่อวัน และการสูบบุหรี่กับเพื่อนเพื่อสังสรรค์
Article Details
เอกสารอ้างอิง
ธชาพิมพ์ อานพินิจนันท์. “Communication to strengthen attitudes, subjective norms, perceived behavioral control, intention affecting university students on quit smoking based on theory of plan behavior”. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, ๒๕๖๑.
วิไลวรรณ วิริยะไชโย. “ทัศนคติต่อการสูบบุหรี่และสุขภาพของบุคลากร นักศึกษาแพทย์ และผู้ป่วยนอกและญาติของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์”. สงขลานครินทร์เวชสาร. ปีที่ ๒๔ ฉบับที่ ๓ (๒๕๔๙).
Christiansen B, Reeder K, Hill M, Baker TB, Fiore MC. “Barriers to Effective TobaccoDependence Treatment for the Very Poor”. Journal of Studies on Alcohol and Drugs. Vol. 73 No. 6 (2012): 874–884.
Haustein K-O. “Smoking and poverty”. European Journal of Cardiovascular Prevention and Rehabilitation. Vol. 13 No. 3 (2006): 312–8.
Hyland A, Higbee C, Travers MJ, Van Deusen A, Bansal-Travers M, King B, et al. “Smoke-free homes and smoking cessation and relapse in a longitudinal population of adults”. Nicotine & Tobacco Research. Vol. 11 No. 6 (2009):
–618.
Liu Y, Rao K, Hu T-W, Sun Q, Mao Z. “Cigarette smoking and poverty in China”. Social Science and Medicine. Vol. 63 (2006): 2784-2790.
Majra JP, Gur A. “Poverty, Tobacco, and Health: An Indian Scenario”. Journal of Health Population and Nutrition. Vol. 27 No. 3 (2009): 316–318.
มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่. การส่งเสริมการเลิกบุหรี่ในงานประจำ. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: http://www.ptnosmoke.com/images/pdf/download/kit-01/02/001.pdf [๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๓].
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. การสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่และดื่มสุราของประชากร ปี ๒๕๖๐. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: http://www.nso.go.th/sites/2014/DocLib13 [๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๓].
สำนักควบคุมการบริโภคยาสูบ. สถานการณ์และทิศทางการดำเนินงานควบคุมยาสูบในประเทศไทย. [Online]. Available : http://www.trc.or.th/th/media/attachments/2562/01/29/2559.pdf/ [15 May 2020].
Belvin C, Britton J, Holmes J, Langley T. Parental smoking and child poverty in the UK: an analysis of national survey data. [Online]. Available: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4448212/ [15 May 2020].