การสร้างเครือข่ายการบริหารปกครองแบบร่วมมือกัน ในการปฏิบัติภารกิจขององค์การบริหารส่วนจังหวัด

บทคัดย่อ

          บทความวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ (๑) เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยมูลเหตุให้ภาคส่วนต่าง ๆ เข้ามาเป็นภาคีความรวมมือในการปฏิบัติภารกิจขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (๒) เพื่อศึกษากระบวนการสร้างเครือข่ายการบริหารปกครองแบบร่วมมือกันในการปฏิบัติภารกิจ (๓) เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยสำคัญอันมีผลทำให้การบริหารปกครองแบบร่วมมือกันในการปฏิบัติภารกิจขององค์การบริหารส่วนจังหวัดประสบผลสำเร็จ และ (๔) เพื่อเสนอแนะแนวทางในการสร้างเครือข่ายการบริหารปกครองแบบร่วมมือกันในการปฏิบัติภารกิจขององค์การบริหารส่วนจังหวัดอย่างมีประสิทธิผล โดยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ศึกษา และวิเคราะห์ข้อมูลจากเอกสาร และสัมภาษณ์เชิงลึกกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญเป็นหลัก

          ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยอันเป็นมูลเหตุให้ภาคส่วนต่าง ๆ เข้ามาเป็นภาคีความร่วมมือในการปฏิบัติภารกิจร่วมกับองค์กรการบริหารส่วนจังหวัด ประกอบด้วย (๑) อำนาจหน้าที่ ทรัพยากร และศักยภาพของภาคส่วนนั้น ๆ (๒) ภูมิหลังที่เคยช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาก่อน (๓) สิ่งจูงใจ (๔) บุคลิกลักษณะ ความสามารถ และความมุ่งมั่นของผู้ประสานความร่วมมือ (๕) บรรยากาศ และโครงสร้างที่เอื้อต่อความร่วมมือ โดยมีกระบวนการสร้างเครือข่ายในการปฏิบัติภารกิจ ได้แก่ (๑) การตระหนักถึงปัญหา และความจำเป็นที่ต้องแก้ปัญหาร่วมกัน (๒) การแสวงหา และเจรจากับภาคส่วนต่าง ๆ (๓) การกำหนด และมอบหมายภารกิจให้ภาคีความร่วมมืออย่างเหมาะสม (๔) การสร้างความยินยอม และไว้วางใจระหว่างกัน (๕) การแก้ปัญหา และสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน (๖) การแสดงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้การบริหารปกครองแบบร่วมมือกันประสบผลสำเร็จ ได้แก่ ศักยภาพของบุคคลที่มีบทบาทในการประสานความร่วมมือ และศักยภาพของภาคีความร่วมมือหลัก รวมทั้งภาคีเครือข่ายสนับสนุน ทั้งนี้โดยการจะให้การสร้างเครือข่ายมีประสิทธิผลได้นั้น จะต้องทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องตระหนัก เข้าใจ ถึงความสำคัญ และสนับสนุนด้านต่าง ๆ ทำให้ภาคส่วนต่าง ๆ ยินดีเข้ามาเป็นภาคีความร่วมมืออย่างต่อเนื่องและต้องมีกระบวนการดำเนินการอย่างเหมาะสม