พฤติกรรมและความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีต่อการท่องเที่ยวเชิงธรณี ในพื้นที่อุทยานธรณีโลกประเทศไทย
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมและความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวไทยต่อการท่องเที่ยว เชิงธรณีในพื้นที่อุทยานธรณีโลกในประเทศไทย โดยใช้วิธีระเบียบวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง 400 คน ใช้เทคนิค การสุ่มตัวอย่างแบบสะดวกซึ่งเป็นการสุ่มตัวอย่างแบบไม่อาศัยความน่าจะเป็น เครื่องมือคือแบบสอบถามที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวจำนวน 5 ท่าน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ผลการศึกษาพบว่านักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่ไม่เคยเดินทางมาท่องเที่ยวเชิงธรณีวิทยาในอุทยานธรณีโลกในประเทศไทยมาก่อน โดยมีวัตถุประสงค์ในการเดินทางมาในครั้งนี้เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ ร่วมกับครอบครัวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ มีการใช้จ่าย ในการท่องเที่ยวครั้งนี้ต่ำกว่า 1,000 บาท และรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงธรณีวิทยาที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุดคือพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้ หากกล่าวถึงแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรณีวิทยา นักท่องเที่ยวจะนึกถึงซากฟอสซิลดึกดำบรรพ์เป็นอันดับแรก โดยข้อมูลของแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรณีวิทยาที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ได้รับมาจากคนรอบตัว เช่น เพื่อน ครอบครัว และผลจากการศึกษาความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีต่อการท่องเที่ยวเชิงธรณีวิทยาในพื้นที่อุทยานธรณีโลกประเทศไทย ในภาพรวม พบว่า นักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่มีระดับความต้องการมากที่สุดในด้านกิจกรรมในแหล่งท่องเที่ยว (Activities) มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.49 รองลงมาคือ ด้านสิ่งดึงดูดใจในแหล่งท่องเที่ยว (Attraction) มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.40 ความสะดวกในการเดินทาง (Accessibility) มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.32 สิ่งอำนวยความสะดวกในแหล่งท่องเที่ยว (Amenities) มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.27 ความปลอดภัยในแหล่งท่องเที่ยว (Safety) มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.24 และการบริการที่พักในแหล่งท่องเที่ยว (Accommodation) มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.10 ตามลำดับ
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของโรงเรียนการท่องเที่ยวและการบริการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ห้ามผู้ใดนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากโรงเรียนการท่องเที่ยวและการบริการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต นอกจากนี้ เนื้อหาที่ปรากฎในบทความเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน ทั้งนี้ไม่รวมความผิดพลาดอันเกิดจากเทคนิคการพิมพ์
เอกสารอ้างอิง
เอกสารอ้างอิง (ภาษาไทย)
กอบกาญจน์ เหรียญทอง. (2556). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการท่องเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิตไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยสยาม.
ชัญชนา คำชา. (2555). แนวทางการนำเสนอแหล่งอนุรักษ์ธรณีวิทยา/อุทยานธรณีให้มีความน่าสนใจและดึงดูดนักท่องเที่ยว. สำนักธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี.
ณฐพรรณ พวงยะ. (2563). บทวิเคราะห์การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงธรณีวิทยา จังหวัดเพชรบูรณ์ ประเทศไทย [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิตไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ดนุวัศ สุวรรณวงศ์. (2564). แนวทางการพัฒนาตลาดการท่องเที่ยวอุทยานธรณีโลกสตูลเพื่อยกระดับการพัฒนาพื้นที่จังหวัดสตูลภายใต้ความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม, 11(1), 261-273.
ทัศนาคง ทองแก้ว. (2554). ความพึงพอใจของลูกค้าคนไทยที่มาซื้อสินค้าในตลาดนัดจตุจักรเขต จตุจักร. มหาวิทยาลัยนเรศวร.
ประเทือง จินตสกุล. (2561). โคราชจีโอพาร์ค สู่จีโอปาร์คโลกยูเนสโก. กองธรณีวิทยา ส่วนอนุรักษ์แหล่งธรณีวิทยาและจัดตั้งอุทยานธรณี กรมทรัพยากรธรณี.
ประสิทธิ์ ทองอุ่น. (2542). พฤติกรรมมนุษย์กับการพัฒนาคน. เธิร์ดเวฟเอ็ดดูเคชั่น.
ป้องศักดิ์ ทองเนื้อแข็ง ดนุวัศ สุวรรณวงศ์ และอรอนงค์ เฉียบแหลม. (2563). การพัฒนาและบริหารจัดการการท่องเที่ยวอุทยานธรณีโลกสตูลอย่างยั่งยืน. https://elibrary.tsri.or.th/fullP/RDG62T0068/RDG62T0068V01//RDG62T0068V01_abstract.pdf
พวงพรภัสสร์ วิริยะ. (2564). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจท่องเที่ยวเชิงนิเวศตามแนวเส้นทางโคราช จีโอพาร์ค อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา. วารสารสมาคมนักวิจัย, 26(4), 225-243.
แพรวพรรณ ศิริเลิศ. (2566). UNESCO รับรองโคราชจีโอพาร์ค เป็นอุทยานธรณีแห่งที่ 4 ของโลก. https://www.sdgmove.com/2023/05/23/unesco-khorat-geopark/
มาศศุภา นิ่มบุญจาช. (2558). การศึกษาองค์ประกอบทางการท่องเที่ยวและการมีส่วนร่วมของชุมชนที่มีผลต่อความยั่งยืนทางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศเขาสันหนอกวัว (อุทยานแห่งชาติเขาแหลม). มหาวิทยาลัยศิลปากร.
วิกิพีเดีย. (2567). อุทยานธรณีโลกในประเทศไทย. https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2
สุชญา จันทร์แสง และมัลลิกา ธรรมจริยาวัฒน์. (2561). การศึกษาความประทับใจในการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีผล ต่อพฤติกรรมการกลับมาท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวบรรพชีวิน “อุทยานธรณีโคราช (Khorat Geopark)” จังหวัดนครราชสีมา. มหาวิทยาลัยรามคำแหง. http://www.ba-abstract.ru.ac.th/AbstractPdf/2561-5-7_1564994885.pdf
เอกสารอ้างอิง (ภาษาอังกฤษ)
Cochran, W.G. (1953). Sampling Techniques. John Wiley & Sons, Inc.
Dickman, C. R. (1996). Overview of the Impacts of Feral Cats on Australian Native Fauna. Australian Nature Conservation Agency.
Dowling, R., & Newsome, D. (2005). Geotourism. Elsevier.
Hose, T.A. (1995). Selling the Story of Britain's Stone. Environmental Interpretation, 10(2), 16-17.
Newsome, D., & Dowling, R. (2010). Geotourism: the tourism of geology and landscape. Goodfellow Publishers.
Newsome, D., Dowling, R., & Leung, Y-F., (2012). The nature and management of geotourism: A case study of two established iconic geotourism destination. Tourism management perspectives, 2(3), 19-27.