DEVELOPMENT APPROACH OF SPECIAL COFFEE ATTRACTIONS OF THE COFFEE GROWING COMMUNITY CHAE SON SUBDISTRICT, MUEANG PAN DISTRICT, LAMPANG PROVINCE
Main Article Content
Abstract
การวิจัยครั้งนี้ ใช้การวิจัยเชิงเชิงปริมาณ (Quantitative Research) เก็บข้อมูล โดย ใช้แบบประเมิน องค์ประกอบแหล่งท่องเที่ยว รวม 7 ด้าน ประกอบด้วย 1) คุณค่าของแหล่งท่องเที่ยว 2) ความสะดวกในการเข้าถึง 3) สิ่งอำนวยความสะดวก 4) สภาพแวดล้อม 5) ข้อจำกัดในการรองรับนักท่องเที่ยว 6) ความมีชื่อเสียง 7) การจัดการไร่กาแฟพิเศษ เป็นแบบประเมินค่า (Rating Scale) 5 ระดับ มี วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาศักยภาพความพร้อมของชุมชนผู้ปลูกกาแฟในตำบลแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง สู่การส่งเสริมอุตสาหกรรมกาแฟพิเศษ ประเมินและเก็บข้อมูลโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 7 ท่าน ลงพื้นที่เก็บข้อมูล โดยการสำรวจและประเมินศักยภาพความพร้อมของชุมชนผู้ปลูกกาแฟใน ตำบลแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง จำนวน 2 หมู่บ้าน 1) บ้านแม่แจ๋ม 2) บ้านป่าเหมี้ยง เพื่อนำข้อมูลที่ได้ มาศึกษาและจัดทำแนวทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวกาแฟพิเศษ ของชุมชนผู้ปลูกกาแฟ วิเคราะห์ข้อมูลโดย ใช้สถิติพื้นฐาน (ค่าเฉลี่ย) นำเสนอข้อมูลในรูปแบบตารางผลการประเมิน ผลการการประเมินศักยภาพแหล่งท่องเที่ยว ในภาพรวมพบว่า ศักยภาพแหล่งท่องเที่ยว บ้านแม่แจ๋ม อยู่ในระดับควรปรับปรุง ค่าเฉลี่ย = 2.14 และบ้านป่าเหมี้ยง อยู่ในระดับปานกลางค่าเฉลี่ย =2.69 ผลการการประเมินศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวในแต่ละด้าน พบว่า
- ศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวบ้านแม่แจ๋ม ด้านคุณค่าของแหล่งท่องเที่ยว มีผลการประเมินอยู่ในระดับดี ค่าเฉลี่ย = 4.05 ด้านความมีชื่อเสียงผลการประเมินอยู่ในระดับดีปานกลาง ค่าเฉลี่ย = 3.14 ด้านสภาพแวดล้อมผลการประเมินอยู่ในระดับควรปรับปรุง ค่าเฉลี่ย = 1.83 และมีผลการประเมินศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในระดับต่ำ รวม 4 ด้านคือ 1) ด้านความสะดวกในการเข้าถึง ค่าเฉลี่ย = 1.68 2) ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกค่าเฉลี่ย = 1.57 3) ด้านข้อจำกัดในการรองรับนักท่องเที่ยวค่าเฉลี่ย =1.43 และ 4) การจัดการไร่กาแฟพิเศษค่าเฉลี่ย = 1.31
- ศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวบ้านป่าเหมี้ยง ด้านคุณค่าของแหล่งท่องเที่ยวมีผลการประเมินอยู่ในระดับดี ค่าเฉลี่ย = 3.90 ด้านความมีชื่อเสียงผลการประเมินอยู่ในระดับดีปานกลาง ค่าเฉลี่ย = 3.10 และมีผลการประเมินศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในระดับควรปรับปรุง รวม 5 ด้านคือ 1) ด้านความสะดวกในการเข้าถึง ค่าเฉลี่ย = 2.57 2) ด้านสภาพแวดล้อมค่าเฉลี่ย =2.31 3) ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกค่าเฉลี่ย = 2.02 4) ด้านข้อจำกัดในการรองรับนักท่องเที่ยวค่าเฉลี่ย =2.31 และ 5) การจัดการไร่กาแฟพิเศษค่าเฉลี่ย = 2.14
Article Details
References
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. การบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 สืบค้นจาก http://www.tourism.go.th/assets/portals/1/files/TTS615-, 2561.
ปาริฉัตร สิงห์ศักดิ์ตระกูล และพัชรินทร์ เสริมการดี. การศึกษาศักยภาพและแนวทางการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของชุมชนบ้านทุ่งมะปรัง อาเภอควนโดนและบ้านโตนปาหนัน อาเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล. วารสารสุทธิปริทัศน์ ปีที่ 27 ฉบับที่ 83 (กรกฎาคม-กันยายน) 2556.
มนัสสินี บุญมีศรีสง่า. ภาพิมล ปิ่นแก้ว และปาลิณี สกุลตั้งมณีรัตน์. ปัจจัยที่ส่งผลต่อความพึงพอใจและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีต่อตลาดฉัตรศิลาในอาเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์. เพรชบุรี คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, 2556.
มนัส สุวรรณ. นิเวศวิทยากับการพัฒนาเศรษฐกิจ. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: สานักพิมพ์โอเดียน สโตร์, 2538.
ระพีพรรณ ทองห่อ และคณะ.อ้างใน ศิริจรรยา ประพฤติกิจ. แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวภายใต้ศักยภาพ และข้อ จากัดของกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน. กรุงเทพมหานคร สานักงานคณะกรรมการ, 2549.